สรุปข่าว
สำนักข่าวเกียวโดนิวส์ รายงานสถานการณ์เงินเยนเมื่อวานนี้ (26 มิ.ย.) ร่วงลงอย่างหนัก สู่ระดับต่ำสุดในรอบ 37 ปี แม้ว่าทางการญี่ปุ่นจะระมัดระวังเกี่ยวกับการแทรกแซงตลาดอีกครั้งเพื่อชะลอการลดลงอย่างรวดเร็ว
ก่อนหน้านี้ ทางการญี่ปุ่น ได้ส่งสัญญาณในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ถึงความตั้งใจที่จะตอบสนองต่อความผันผวนที่มากเกินไปในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ โดยประเมินว่า การเคลื่อนไหวของสกุลเงิน ควรสะท้อนถึงปัจจัยพื้นฐาน
การการซื้อขายเมื่อว่านี้ พบว่า ค่าเงินเยนร่วงอย่างรวดเร็ว แตะ 160.39 ณ จุดหนึ่ง ในชั่วโมงการซื้อของในลอนดอน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุด นับตั้งแต่เดือนธันวาคม 1986 หรือในรอบ 37 ปี ก่อนหน้านี้ เงินเยนได้ทะลุระดับ 160.24 เมื่อวันที่ 29 เม.ย. ซึ่งเป็นระดับที่อาจกระตุ้นให้ญี่ปุ่นเข้าแทรกแซงด้วยการซื้อเงินเยนเป็นดอลลาร์สหรัฐฯ
ส่วนของธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นได้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในเดือนมีนาคม แต่ยังคงอยู่ประมาณร้อยละ 0 ทำให้เกิดช่องว่างอัตราดอกเบี้ยที่กว้างระหว่างทั้งสองประเทศ
อย่างไรก็ตาม ชาวญี่ปุ่นยังคงต้องต่อสู้กับค่าครองชีพที่สูงขึ้น เนื่องจากค่าเงินเยนที่อ่อนค่าลง ทำให้สินค้านำเข้ามีราคาปรับเพิ่มสูงขึ้น โดยนายกรัฐมนตรี ฟูมิโอ คิชิดะ กำลังดำเนินความพยายามใช้มาตรการบรรเทาเงินเฟ้อเพิ่มเติม
ทั้งนี้ อัตราแลกเปลี่ยนเงินเยนต่อบาท อยู่ที่ 22.6893 บาทต่อ 100 เยน กรณีซื้อเงินโอน อัตราขายถัวเฉลี่ยอยู่ที่ 23.3547 บาทต่อ 100 เยน ในช่วงที่ผ่านมา เศรษฐกิจญี่ปุ่น ยังไม่ฟื้นตัว รวมทั้งต้องเผชิญปัญหาโครงสร้างประชากรที่เป็นผู้สูงอายุมากขึ้น จากอัตราการมีบุตรลดลง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อผลผลิตของประเทศในระยะข้างหน้า
นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยังมีฐานะทางการคลังที่อ่อนแอ ภายใต้หนี้สาธารณะที่สูงมากถึงกว่า ร้อยละ 200 ต่อจีดีพี และต้องแบกรับค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องกับการดูแลผู้สูงอายุที่มีแต่จะเพิ่มขึ้น
ภาพจาก AFP
ที่มาข้อมูล : -