สรุปข่าว
กรมขนส่งทางบก เปิดยอดผู้ชำระภาษีรถยนต์ปี 2566 กว่า 3.3 หมื่นล้าน แนะรถยนต์อายุเกิน 7 ปี รถจักรยานยนต์เกิน 5 ปี สามารถนำรถเข้าตรวจสภาพก่อนชำระภาษีออนไลน์เพื่อความสะดวก รวดเร็ว
นายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก และโฆษกกรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ปัจจุบันกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) มีช่องทางในการให้บริการประชาชนสำหรับการชำระภาษีรถยนต์และรถจักรยานยนต์หลายช่องทาง โดยช่องทางการชำระภาษีออนไลน์ได้รับความนิยมจากประชาชนเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากเป็นช่องทางที่มีความสะดวกและไม่ต้องเดินทางมาที่สำนักงานขนส่งอยู่ที่ไหนก็สามารถชำระภาษีได้
สำหรับยอดผู้ชำระภาษีรถตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ประจำปีงบประมาณ 2566 ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2565 - 30 กันยายน 2566 ขบ. สามารถจัดเก็บภาษีรถทั่วประเทศได้ทั้งสิ้น 32,818,269 คัน เป็นเงิน 33,977,387,168.96 บาท
แบ่งออกเป็นผู้ใช้บริการชำระภาษีรถประจำปีออนไลน์ (แอปพลิเคชัน DLT Vehicle Tax เว็บไซต์ https://eservice.dlt.go.th และเคาน์เตอร์เซอร์วิส) 845,435 คัน การใช้บริการรับชำระภาษีรถประจำปี ณ สำนักงานขนส่งทั่วประเทศ 27,300,796 คัน การใช้บริการเลื่อนล้อต่อภาษี (Drive Thru for Tax) 4,272,377 คัน การออกหน่วยเคลื่อนที่ 381,874 คัน ที่ทำการไปรษณีย์ 7,916 คัน ชำระผ่านธนาคาร 9,871 คัน
สำหรับผู้ที่ชำระภาษีรถประจำปีผ่านแอปฯ DLT Vehicle Tax เรียบร้อยแล้วสามารถเลือกให้จัดส่งเครื่องหมายการเสียภาษีและใบเสร็จรับเงินทางไปรษณีย์ จะได้รับภายใน 5 วันทำการนับจากวันชำระเงิน หรือเลือกพิมพ์เครื่องหมายการเสียภาษีด้วยตนเองที่ตู้รับชำระภาษีรถประจำปีอัตโนมัติ (Kiosk) ภายในสำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 - 5 และในระหว่างที่รอรับเอกสารระบบจะแสดงหลักฐานการชำระภาษีรถประจำปีชั่วคราวเพื่อให้เจ้าของรถสามารถใช้เป็นหลักฐานแสดงการชำระภาษีจนกว่าจะได้รับเครื่องหมายการเสียภาษีประจำปีจาก ขบ.
ทั้งนี้ ขบ. แนะนำผู้ที่ต้องการชำระภาษีรถประจำปีสามารถชำระล่วงหน้าได้ก่อนครบอายุภาษี แต่ไม่เกิน 3 ปี สามารถนำรถเข้าตรวจสภาพ ณ สถานตรวจสภาพรถเอกชน ก่อนชำระภาษีล่วงหน้าผ่านระบบออนไลน์ หากประชาชนมีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามเกี่ยวกับการชำระภาษีรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์สามารถติดต่อได้ที่สายด่วน ขบ. โทร. 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง
แฟ้มภาพ TNN Online
ที่มาข้อมูล : -