
ไฟป่าครั้งใหญ่ที่ลุกลามไปทั่วภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ของเกาหลีใต้ กลายเป็นภัยพิบัติที่ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อประชาชนและพื้นที่ป่าไม้ของประเทศ
ทั้งตอนนี้ไฟก็ยังไม่สามารถดับลงได้ จนเชื่อว่า นี่คือไฟป่าที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศ ซึ่งจุดเริ่มต้นของไฟป่าแต่ละแห่งนี้ เชื่อว่ามาจากความผิดพลาดเล็กๆ น้อย จนนำมาสู่ ความสูญเสียครั้งใหญ่
ต้นเหตุของไฟป่าแต่ละจุด
ต้นเหตุของไฟป่าแต่ละแห่ง ในภาคตะวันออกนั้นเกิดขึ้นแตกต่างกัน
เมืองอุยซอง (Uiseong-gun), จังหวัดคย็องซังเหนือ
ไฟป่า 2 จุดในเมืองอุยซอง เกิดจากประกายไฟที่ถูกจุดโดยผู้มาเยี่ยมสุสานบรรพบุรุษในเมืองอันพยองอึบ ซึ่งผู้ก่อเหตุยอมรับว่าใช้ไฟแช็กจุดไฟบนภูเขา และต่อมาไฟได้ได้กลายเป็นศูนย์กลางของไฟป่าที่ลุกลามอย่างรวดเร็วไปยังพื้นที่ใกล้เคียง
เมืองอังเยมยอน (Angye-myeon), จังหวัดคย็องซังเหนือ
ไฟป่าที่เกิดขึ้นในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน ยังไม่สามารถระบุสาเหตุที่แน่ชัด แต่คาดว่าอาจมีต้นตอมาจากทางด่วน
ซันชองกุน (Sancheong-gun), จังหวัดคย็องซังเหนือ
ไฟป่าที่เกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ลุกลามไปยังฮาดงกุนและเมืองจินจู สาเหตุมาจากเครื่องตัดหญ้าในฟาร์มแห่งหนึ่งในเขตซิชอนมยอน ไฟป่านี้ทำให้มีผู้เสียชีวิต 4 ราย
อุลจูกุน (Ulju-gun), นครอุลซาน
ไฟป่าอีกจุดหนึ่งที่ยังไม่สามารถควบคุมได้ มีต้นเหตุมาจากการเชื่อมโลหะในฟาร์มแห่งหนึ่งเมื่อวันเสาร์
เมืองกิมแฮ (Gimhae)
ไฟป่าที่เกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ถูกดับลงในวันอังคาร แต่กลับมาปะทุขึ้นอีกครั้งในวันพุธ โดยสาเหตุมาจากไฟขนาดเล็กที่คนดูแลสุสานใช้เผาถุงขนม แม้ว่าไฟจะมีขนาดเล็กลง แต่ส่งผลให้ประชาชน 148 คนต้องอพยพออกจากพื้นที่
ฮัมยางกุน (Hamyang-gun), จังหวัดคย็องซังใต้
ไฟป่าที่เกิดขึ้นจากการเชื่อมโลหะของชายวัย 60 ปี ซึ่งกำลังซ่อมรั้วเพื่อป้องกันสัตว์ป่า ไฟดังกล่าวสามารถดับลงได้ในช่วงบ่ายของวันนั้น
แม้ว่าแต่ละแห่งจะเกิดจากการกระทำเล็กๆ น้อย แต่เนื่องด้วยลมแรง และสภาพอากาศแห้งแล้ง จึงได้พัดให้เปลวเพลิงเล็กๆ กระจายไปทั่ว และสร้างความเสียหายแก่เมืองในขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ

สรุปข่าว
ความเสียหายและผลกระทบ
ขณะนี้ ไฟป่าในเกาหลีใต้ ได้ลุกลามมามากกว่า 10 วันแล้ว ตั้งแต่วันที่ 14 มีนาคม และได้ส่งผลกระทบอย่างหนัก โดยมีตัวเลขล่าสุด ณ เช้าวันพฤหัสบดี ระบุว่า:
มีผู้เสียชีวิต 26 ราย และ บาดเจ็บ 30 ราย รวมถึงเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและนักบินเฮลิคอปเตอร์ดับเพลิงที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ
ประชาชน 37,185 คนต้องอพยพ ออกจากพื้นที่เสี่ยง
สิ่งอำนวยความสะดวก 325 แห่งถูกทำลาย รวมถึงบ้านเรือน โรงงาน และแหล่งมรดกทางประวัติศาสตร์ เช่น วัด Gounsa ซึ่งสร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 681 หมู่บ้านพื้นเมืองฮาฮเวในอันดง ที่ก็ปกคลุมไปด้วยฝุ่นควัน
พื้นที่ป่าเสียหายรวม 36,009 เฮกตาร์ โดยเฉพาะจังหวัดคย็องซังเหนือที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด ไฟป่าได้เผาผลาญป่าไปประมาณ 33,204 เฮกตาร์
สถานการณ์ล่าสุดและความพยายามควบคุมไฟป่า
ตามข้อมูลของสำนักงานบริการป่าไม้แห่งเกาหลี ไฟป่าในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด มีความคืบหน้าในการควบคุมไฟดังนี้:
เมืองอุยซอง ถูกควบคุมได้ประมาณ 54%
เมืองอันดง ควบคุมได้ 52%
เมืองชองซง ควบคุมได้ 77%
เมืองยองยาง ควบคุมได้ 18%
เมืองยองกุน ควบคุมได้ 10%
เจ้าหน้าที่คาดว่าฝนตกประมาณ 5 มิลลิเมตรในวันพฤหัสบดี อาจช่วยบรรเทาสถานการณ์ แต่ยังไม่น่าจะมีผลต่อการดับไฟอย่างมาก ทั้งทางการยังวางแผนส่งเฮลิคอปเตอร์ 87 ลำเพื่อดับไฟในพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่น และระดมกำลังเจ้าหน้าที่ 5,421 นายเข้าไปด้วย
ที่มาข้อมูล : https://www.koreatimes.co.kr/www/nation/2025/03/371_395001.html https://www.koreaherald.com/article/10450985
ที่มารูปภาพ : AFP

กรุณพร เชษฐพยัคฆ์