ฝันที่เป็นจริงของ LGBTQ+ บันทึกบาดแผลแห่งการรอคอยของ ธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์
ความฝันที่เป็นจริง บันทึกบาดแผลแห่งการรอคอย ในวันประวัติศาสตร์ของชุมชน LGBTQ+
ท่ามกลางบรรยากาศชื่นมื่นที่สำนักงานเขตบางรัก กรุงเทพมหานคร วันที่ 23 มกราคม 2568 ธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ได้ร่วมเป็นสักขีพยานในวันประวัติศาสตร์ที่กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลบังคับใช้เป็นครั้งแรก พร้อมกับถ่ายทอดเรื่องราวการต่อสู้อันยาวนานของชุมชน LGBTQ+ ในประเทศไทย
"ขอแสดงความยินดีกับคู่รักทุกคู่ที่สามารถจดทะเบียนสมรสได้อย่างเท่าเทียมกันในวันนี้ จากความรักที่ไม่เคยเป็นไปได้สู่ความรักที่เป็นไปได้" ธัญวัจน์กล่าวด้วยน้ำเสียงสะท้อนความรู้สึกของผู้ที่เคยผ่านช่วงเวลาอันยากลำบาก เธอเล่าว่าตนเองเติบโตมาในยุคที่ความหลากหลายทางเพศถูกพูดถึงน้อย และมักถูกมองว่าเป็นผู้ป่วยที่มีพฤติกรรมเบี่ยงเบน
บาดแผลแห่งการรอคอย
ตลอดระยะเวลาของการเคลื่อนไหวกว่า 13 ปี ธัญวัจน์ได้รับฟังเรื่องราวอันแสนเจ็บปวดมากมาย ทั้งการสูญเสีย การไม่ยอมรับ การพลัดพราก และที่รุนแรงที่สุดคือการฆ่าตัวตาย เพียงเพราะพวกเขาไม่สามารถสร้างครอบครัวได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย "ผู้มีความหลากหลายทางเพศเราจินตนาการถึงการสร้างครอบครัวไม่ออก ไม่สามารถวาดหวังกับการสร้างครอบครัวของเราได้เลย แต่วันนี้ความเท่าเทียมก้าวแรกเกิดขึ้นแล้ว นี่คือสิทธิ์และศักดิ์ศรีที่เราเท่ากัน"
ความท้าทายที่รออยู่เบื้องหน้า
แม้จะเป็นชัยชนะครั้งสำคัญ แต่ธัญวัจน์ยังเน้นย้ำว่าเส้นทางสู่ความเท่าเทียมยังไม่สิ้นสุด โดยเฉพาะข้อสังเกต 4 ประการของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียม ที่ต้องเร่งจัดทำรายงานให้แล้วเสร็จภายใน 180 วัน ได้แก่ การแก้ไขกฎหมายเรื่องอัตลักษณ์และการรับรองเพศ การแก้ไขกฎหมายเรื่องเทคโนโลยีเจริญพันธุ์ การแก้ไขประมวลกฎหมายอาญาเรื่องความผิดทางเพศ และการสร้างความรู้ความเข้าใจเรื่องความหลากหลายทางเพศ
"งานจดทะเบียนสมรสเท่าเทียมครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย" ธัญวัจน์กล่าว พร้อมย้ำว่านี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น เป้าหมายสุดท้ายคือการสร้างสังคมที่เข้าใจในความหลากหลาย ปราศจากอคติและความเกลียดชัง เพื่อให้ทุกคนสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีศักดิ์ศรีและเท่าเทียมอย่างแท้จริง
สรุปข่าว