
นิสสัน (NISSAN) บริษัทผู้พัฒนารถยนต์ชื่อดังสัญชาติญี่ปุ่น ทดสอบระบบรถยนต์ไร้คนขับ โดยเอาไปวิ่งบนท้องถนนแคบ ๆ ในแถบพื้นที่ชนบทของประเทศอังกฤษ เพื่อดูการขับขี่ของรถบนถนนที่ไม่มีเส้นแบ่งเลน และมีข้อจำกัดด้านความเร็ว ซึ่งจะเป็นลักษณะการใช้งานจริงที่ต้องเจอในอนาคต

สรุปข่าว
โครงการพัฒนาระบบรถยนต์ไร้คนขับนี้ ชื่อว่า อีโวลฟ์เอดี (evolvAD) มีเป้าหมายเพื่อเร่งการเปิดตัวรถยนต์ขับขี่อัตโนมัติในสหราชอาณาจักร ที่สามารถรับมือกับการใช้วิ่งบนเครือข่ายท้องถนนที่มีเส้นทางซับซ้อน โดยบางส่วนเป็นเส้นทางถนนที่มีความเก่าแก่ มีอายุย้อนกลับไปถึงสมัยโรมัน
สำหรับรถสาธิต เป็นรุ่น นิสสัน ลีฟ (Nissan Leaf) ที่ติดตั้งกล้องตรวจจับภาพ 15 ตัว เซ็นเซอร์ไลดาร์ (Lidar) หรือเซ็นเซอร์วัดระยะ 4 ตัว เซ็นเซอร์วัดมุมกว้างอีก 2 ตัว และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ เพื่อให้รถมองเห็นภาพ 360 องศาของทุกสิ่งที่อยู่รอบ ซึ่งบริษัทเคลมว่าทำได้ดีกว่ามุมมองของมนุษย์
กล้องที่ติดตั้งเพื่อระบบรถยนต์ไร้คนขับของนิสสัน ยังไม่ได้มองเห็นแค่ถนนและยานพาหนะอื่น ๆ เท่านั้น แต่ยังมีเทคโนโลยีจดจำใบหน้า เพื่อประเมินว่าคนใช้รถใช้ถนนที่อยู่รอบ ๆ จะอยู่ในระยะอันตรายของรถหรือไม่
นอกจากนี้ระบบของรถยนต์ยังสามารถเข้าถึงภาพจากกล้องวงจรปิด หรือ CCTV ตลอดเส้นทาง ซึ่งทำให้รถยนต์ไร้คนขับสามารถ "มองเห็น" บริเวณมุมต่าง ๆ และเปลี่ยนเลนอัตโนมัติ เพื่อปรับปรุงการจราจรได้
โดยในการทดสอบระบบ จะมีทีมวิศวกรของนิสสัน 2 คน นั่งในรถไปด้วย แม้ว่ารถจะขับขี่แบบอัตโนมัติเองก็ตาม โดยคนหนึ่งจะทำหน้าที่ตรวจสอบระบบ และอีกคนหนึ่งนั่งที่คนขับ เพื่อเข้าควบคุมรถหากจำเป็น
จากการทดสอบพบว่าระบบนี้ ทำให้รถยนต์ขับไปตามเส้นทางหลายกิโลเมตรบนถนนที่ไม่ใช่ถนนสายหลัก และสามารถรักษาความเร็วตามที่กำหนด คือไม่เกิน 96 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ รวมถึงเปลี่ยนเลน - ขับแซงรถยนต์และรถบรรทุกไปตามทางเมื่อจำเป็นได้โดยอัตโนมัติ
นิสสันหวังว่าโครงการพัฒนาระบบรถยนต์ไร้คนขับนี้ จะทำให้อนาคตของการใช้รถใช้ถนน มีความปลอดภัยขึ้น โดยหนึ่งในความท้าทายต่อไป ก็คือการทำให้ระบบสามารถประเมินความเสี่ยงและตัดสินใจกับสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็วคล้ายกับมนุษย์ เพื่อจัดการกับเหตุไม่คาดฝันได้ทันท่วงที
ข้อมูลจาก
ที่มาข้อมูล : Reuters / Nissan
ที่มารูปภาพ : Reuters / Nissan

อารียา ใจสุข