
นักดาราศาสตร์ทั่วโลกกำลังจับตาปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ที่หาชมยาก เมื่อวงแหวนอันเป็นเอกลักษณ์ของดาวเสาร์กำลังจะลับขอบฟ้าไปในวันที่ 23 มีนาคม 2568 โดยปรากฏการณ์นี้มีชื่อเรียกว่า ระนาบวงแหวนตัดผ่าน (Ring Plane Crossing) ซึ่งเกิดขึ้นทุก ๆ 15 ปี

สรุปข่าว
ปรากฏการณ์นี้เกิดจากมุมมองของโลกที่เปลี่ยนแปลงไปตามการโคจรของดาวเสาร์รอบดวงอาทิตย์ ซึ่งดาวเสาร์ใช้เวลาประมาณ 29.4 ปี ในการโคจรรอบดวงอาทิตย์หนึ่งรอบ และแกนการหมุนของดาวเสาร์เอียง 26.7 องศา เมื่อดวงอาทิตย์ส่องแสงตรงเหนือเส้นศูนย์สูตรของดาวเสาร์ในช่วงวสันตวิษุวัตหรือปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อดวงอาทิตย์เคลื่อนที่มาตั้งฉากกับเส้นศูนย์สูตรของโลก ส่งผลให้กลางวันและกลางคืนยาวเท่ากันทั่วโลก เราจะเห็นวงแหวนของดาวเสาร์จากด้านข้าง ทำให้เกิดภาพลวงตาว่าวงแหวนหายไป
อย่างไรก็ตามปรากฏการณ์นี้เป็นโอกาสที่สำคัญสำหรับนักดาราศาสตร์ทั่วโลกในการศึกษาดาวเสาร์อย่างละเอียด เนื่องจากวงแหวนที่ส่องสว่างจะบดบังทัศนวิสัยในการสังเกตให้มองเห็นน้อยลง ซึ่งในอดีตปรากฏการณ์นี้เคยทำให้นักดาราศาสตร์ในช่วงเวลานั้นได้ค้นพบดวงจันทร์ของดาวเสาร์ถึง 13 ดวง อีกทั้งได้ศึกษาการเคลื่อนที่ของดวงจันทร์ การเคลื่อนผ่านหน้าดาวเสาร์ การบดบัง และสุริยุปราคาด้วย
อย่างไรก็ตาม การสังเกตการณ์ปรากฏการณ์ดังกล่าวในปีนี้อาจมีข้อจำกัด เนื่องจากดาวเสาร์จะอยู่ใกล้ดวงอาทิตย์มากเกินไป ทำให้ยากต่อการสังเกตการณ์จากโลกด้วยกล้องโทรทรรศน์อวกาศ โดยนักดาราศาสตร์คาดการณ์ว่าปรากฏการณ์นี้จะสามารถสังเกตการณ์ได้อย่างชัดเจนอีกครั้งในปี 2581
นักดาราศาสตร์ยืนยันว่าปรากฏการณ์นี้ไม่ทำให้วงแหวนของดาวเสาร์จะไม่หายไปอย่างถาวร โดยคาดว่ามันจะคงอยู่ไปอีกประมาณ 300 ล้านปี เนื่องจากวงแหวนของดาวเสาร์ประกอบด้วยอนุภาคน้ำแข็งขนาดเล็กจำนวนมหาศาล มีขนาดตั้งแต่ฝุ่นละอองไปจนถึงก้อนหินขนาดใหญ่ซึ่งถูกทำงายด้วยรังสี Ultra Violet (UV) จากดวงอาทิตย์ และการชนของอุกกาบาต
ที่มาข้อมูล : https://www.skyatnightmagazine.com/space-science/saturn-ring-plane-crossing
ที่มารูปภาพ : TNNTech