
วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2025 Perplexity เว็บไซต์ AI ที่สามารถค้นหาข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ บนอินเทอร์เน็ตและให้คำตอบที่แม่นยำพร้อมอ้างอิงแหล่งที่มา เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ Deep Research ฟีเจอร์การค้นหาเชิงลึก ที่สามารถช่วยให้ผู้ใช้ได้รับการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก พร้อมการอ้างอิงที่มาของข้อมูลที่น่าเชื่อถือ รวมถึงสามารถสร้างรายงานสรุปข้อมูลและส่งออกมาเป็นไฟล์ PDF หรือแชร์เป็น Perplexity Page ได้อีกด้วย
สำหรับฟีเจอร์ Deep Research นี้เป้าหมายคือการให้คำตอบเชิงลึกมากขึ้น พร้อมการอ้างอิงจริงสำหรับกรณีการใช้งานระดับมืออาชีพ โดย Perplexity เผยในบล็อกขององค์กรว่า "ฟีเจอร์ Deep Research มีความโดดเด่นในงานระดับผู้เชี่ยวชาญที่หลากหลาย ตั้งแต่การเงินและการตลาดไปจนถึงการวิจัยผลิตภัณฑ์"
โดยการใช้งานฟีเจอร์นี้ เพียงแค่เลือก "Deep Research" จากเมนูแบบเลื่อนลง และเมื่อส่งคำค้นหาใน Perplexity แล้ว AI จะประมวลผลและสร้างรายงานออกมาซึ่งสามารถส่งออกมาเป็นไฟล์ PDF ไปใช้งานต่อได้

สรุปข่าว
ท่ามกลางการแข่งขันอันดุเดือดในตลาด AI การเปิดตัวของ Perplexity "Deep Research" หรือเครื่องมือค้นหาข้อมูลเชิงลึกนี้ ถูกเปิดตัวขึ้นมาให้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ฟรี หรือ Freemium ในขณะที่ผู้ใช้แบบ Pro จะได้รับสิทธิพิเศษในการใช้งานได้ไม่จำกัด
การเปิดตัวครั้งนี้ทำให้ Perplexity กลายเป็นผู้เล่นรายล่าสุด ที่กระโดดเข้าร่วมสนามแข่งขันกับ Google และ OpenAI ซึ่งต่างก็มีฟีเจอร์ในลักษณะที่คล้ายกัน และขณะนี้มีให้บริการบนเว็บไวต์แล้ว และจะเพิ่มลงใน App store สำหรับ Mac, iOS และ Playstore สำหรับ Android เร็ว ๆ นี้
แม้ปัจจุบันฟีเจอร์นี้ได้รับคะแนนจากการทดสอบ Humanity's Last Exam ซึ่งเป็นการทดสอบที่ใช้วัดผล AI ในปัจจุบันไป 21.1% ซึ่งยังไม่เท่า Deep Research ของ OpenAI ที่ทำคะแนนได้ 26.6% แต่สิ่งที่ทำให้ Deep Research ของ Perplexity ต่างออกไปคือทำงานได้เร็วกว่า โดยใช้เวลาเฉลี่ยไม่ถึง 3 นาที ในขณะที่ Deep Research ของ OpenAI ใช้เวลา 5 ถึง 30 นาที และเปิดให้ใช้งานฟรี โดยผู้ใช้ทั่วไปจะได้รับจำนวนคำค้นหาที่จำกัดต่อวัน ซึ่งแตกต่างจาก Deep Research ของ OpenAI ที่ต้องสมัครสมาชิก Pro ราคา 200 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 6,700 บาทต่อเดือน
Perplexity Deep Research เป็นเครื่องมือค้นหาข้อมูลเชิงลึกที่มีประสิทธิภาพสูง ใช้งานง่าย และเข้าถึงได้ฟรี ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการข้อมูลเชิงลึกในระดับมืออาชีพ อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ควรใช้เครื่องมือนี้อย่างมีวิจารณญาณ และไม่ควรพึ่งพา AI มากเกินไปในการทำงานวิจัย ผู้ใช้งานควรตระหนักถึงข้อจำกัดบางประการ เช่น ความคิดสร้างสรรค์ในการตีความข้อมูลที่อาจยังไม่เท่ามนุษย์ และการพึ่งพาแหล่งข้อมูลที่เข้าถึงได้ง่าย ซึ่งอาจทำให้พลาดข้อมูลสำคัญอื่น ๆ ไป
ที่มาข้อมูล : https://techcrunch.com/2025/02/15/perplexity-launches-its-own-freemium-deep-research-product/
ที่มารูปภาพ : Perplexity