DSI ลุยสอบบริษัทสร้างตึก สตง. ฐานนอมินีต่างชาติ-ฮั้วประมูล

กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ประกาศเดินหน้าสอบสวนบริษัทรับเหมาก่อสร้างอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่พังถล่มหลังเหตุแผ่นดินไหว โดยชี้เป้าไปที่ประเด็นสำคัญคือการตรวจสอบว่าเป็น “นอมินีของต่างชาติ” และอาจมีพฤติการณ์ ฮั้วประมูล รัฐบาล

พันตำรวจตรียุทธนา แพรดำ อธิบดี DSI เปิดเผยว่า ขณะนี้คดีดังกล่าวได้รับการรับรองเป็นคดีพิเศษอย่างเป็นทางการแล้ว (คดีพิเศษที่ 32/2568) โดยผ่านเกณฑ์ที่สามารถใช้ดุลยพินิจรับเข้าสู่ระบบคดีพิเศษได้ทันที ทั้งในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนของต่างชาติ และมูลค่าทรัพย์สินเกินกว่า 100 ล้านบาท

DSI เตรียมตั้งคณะกรรมการสอบสวนโดยมีรองอธิบดีเป็นหัวหน้าคณะ และแบ่งแนวทางสืบสวนออกเป็น 3 ด้านหลัก คือ 1. ความผิดเกี่ยวกับนอมินี 2. การตรวจสอบมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) และ 3. การเสนอราคาหรือฮั้วประมูล ซึ่งจากข้อมูลเบื้องต้นพบว่า ความผิดเกี่ยวกับการเป็นนอมินีมีมูลชัดเจนที่สุด

แม้บริษัทผู้รับเหมาจะมีคนไทยถือหุ้น 51% แต่เบื้องหลังมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มธุรกิจต่างชาติ และตรวจพบว่ากลุ่มคนไทยดังกล่าวมีชื่อถือหุ้นในอีกหลายบริษัทในเครือ รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 13 บริษัท ซึ่งถือว่าไม่สอดคล้องกับรูปแบบธุรกิจปกติ

ดีเอสไอยังเตรียมตรวจสอบเส้นทางการจดทะเบียน การเข้าประมูลโครงการรัฐ การถือหุ้นย้อนหลัง และความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทคู่เทียบที่อาจเข้าข่าย “ฮั้วราคา” อีกทั้งต้องตรวจสอบมาตรฐานวัสดุก่อสร้างที่ใช้ โดยเฉพาะในส่วนของเหล็ก ว่าได้มาตรฐาน สมอ. หรือไม่

สำหรับหลักฐานสำคัญที่ถูกลักลอบนำออกจากไซต์งานจำนวน 37 แฟ้ม หลังเกิดเหตุ ดีเอสไอเตรียมประสานกับ สน.บางซื่อ เพื่อตรวจสอบสถานะของแฟ้มดังกล่าว หากยังไม่เข้าระบบสำนวนของตำรวจ ก็จะนำมาสอบสวนเองทันที

ในส่วนของแรงงานต่างด้าวที่ถูกพบว่าใช้วีซ่านักศึกษาแต่เข้าทำงานในตำแหน่งวิศวกร ดีเอสไออยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียด

พันตำรวจตรียุทธนา ยืนยันว่า แม้บริษัทผู้รับเหมาจะมีความสัมพันธ์อันดีกับหน่วยงานภาครัฐหรือรัฐบาลต่างประเทศ อาทิ จีน แต่จะไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินคดี เนื่องจากดีเอสไอมีหน้าที่พิสูจน์ข้อเท็จจริงเพื่อให้สังคมได้รับความกระจ่าง หากพบความผิดจะดำเนินคดีตามกฎหมายโดยไม่มีข้อยกเว้น