พลเอกทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด สวมใส่หมวกแก๊ปสีครามที่ผลิตจากผ้าไทยในระหว่างร่วม งานประเพณีฟุตบอลประเพณี วปอ.ลีก คัพ เพื่อสังคม 2568 เพราะเป็นผลผลิตจากโครงการ CSR ที่นักศึกษา วปอ.บอ. รุ่นที่ 1 มอบให้คณะอาจารย์ละรุ่นน้องรุ่นที่ 2 ทุกคน ซึ่งเป็นการสานต่อโครงการเพื่อสังคม ตามเจตนารมณ์ของนักศึกษา วปอ.บอ. รุ่นที่ 1 ที่ต้องการส่งเสริมและต่อยอดการมีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคมอย่างเป็นรูปธรรม ส่งต่อเจตนารมย์การเป็นผู้นำแห่งอนาคตไปยังนักศึกษารุ่นถัดไป และเชื่อมั่นว่า การพัฒนาที่ยั่งยืนต้องเริ่มจากการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน
โครงการนี้เป็นสัญลักษณ์ของความมุ่งมั่นของพวกเราในการสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ดีให้กับสังคม โดยความร่วมมือของรุ่นที่ 1 นอกจากจะมีการประสานความร่วมมือกับ 5 จังหวัดซึ่งประกอบด้วย จังหวัดสุโขทัย จังหวัดตาก จังหวัดบึงกาฬ จังหวัดอุดรธานี และจังหวัดหนองคาย โดยนำผ้าที่เป็นเอกลักษณ์ของพื้นที่มาออกแบบหมวกที่สามารถใช้ได้ง่ายแต่ยังคงกลิ่นไอความเป็นลวดลายเฉพาะ
ซึ่งการทำหมวกในครั้งนี้เป็นโครงการนำร่องเพื่อให้เห็นถึงศักยภาพของเพิ่มมูลค่าให้ผลิตภัณฑ์ผ้าไทยให้มีความเป็นสากลและร่วมสมัย โดยการร่วมมือกับแบรนด์ ISSUE ในครั้งนี้ เป็นแนวทางที่พิสูจน์ให้ชุมชนเห็นถึงช่องทางในการเพิ่มรายได้ให้กับผลิตภัณฑ์ และรูปแบบการสนับสนุนที่นักศึกษาหลักสูตร วปอ.บอ. มาช่วยขยายความร่วมมือระหว่างรัฐและชุมชนในการต่อยอดเพื่อขยายผลต่อไปในอนาคต อันจะช่วยสร้างรายได้ให้กับท้องถิ่น
นอกจากนี้ ทางหลักสูตร วปอ.บอ. ยังมีแผนช่วยสนับสนุนกิจกรรมเพื่อพัฒนาสังคมอื่น ๆ อย่างต่อเนื่องในบทบาทของผู้บริหารแห่งอนาคตที่มุ่งเน้นการขับเคลื่อนความยั่งยืนและลดความเหลื่อมล้ำในสังคมไทย เช่น การจัดอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับความรับผิดชอบต่อสังคมของภาคธุรกิจ (CSR) การทำกิจกรรมอาสา และการสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่องอีกด้วย
สรุปข่าว
นางสาวธนนนท์ นิรามิษ ประธานฝ่ายพัฒนาสังคม CSR วปอ.บอ.รุ่นที่ 1 กล่าวว่า ความมั่นคงทางเศรษฐกิจและการพัฒนา Local Growth Engine เป็นเป้าหมายสำคัญที่จะหยิบยกมาเสมอเมื่อต้องการที่จะลดความเหลื่อมล้ำของประเทศไทยให้เกิดความยั่งยืน ซึ่งเมื่อพิจารณาบริบทของประเทศไทยแล้ว ประเทศไทยยังมีโอกาส อีกมากมายจากการสนับสนุนผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมที่มาจากศิลปวัฒนธรรมหรือบริการต่าง ๆ ซึ่งยังขาดการสนับสนุนและโอกาสที่ดีจากทั้งภาครัฐและภาคธุรกิจ รวมไปถึงการส่งเสริมถ่ายทอดองค์ความรู้ และแนวทางในการเพิ่มมูลค่าทางการตลาดต่อไปอีกด้วย
ซึ่งโครงการในครั้งนี้คือการเชื่อมต่อเจตจำนงไปยังรุ่นที่ 2 โดยเราได้รับความร่วมมือจากแบรนด์ ISSUE ซึ่งเป็นพันธมิตรหลักของโครงการ ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการออกแบบหมวกที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สื่อถึงจิตวิญญาณของการพัฒนาเพื่อสังคม และยังคงเอกลักษณ์ของแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล โดยผ้าที่นำมาใช้ในโครงการนี้ล้วนเป็นผลพวงจากความร่วมมือในการพัฒนาชุมชน และหยิบยกของดีประจำพื้นที่ ประกอบด้วย 1. ผ้าขาวม้าหมักโคลนนาคี กลุ่มทอผ้าครามบ้านดงสาร ตัวแทนจากจังหวัดบึงกาฬ 2. กลุ่มทอผ้าบ้านท่าสำราญ ตัวแทนจากจังหวัดหนองคาย 3. กลุ่มทอผ้าย้อมสีธรรมชาติบ้านศรีเจริญ กลุ่มงานผ้าทอมือแบรนด์ Hattra ที่เป็นผ้าทอจากวัสดุรีไซเคิล ตัวแทนจากจังหวัดอุดรธานี 4. ผ้าทอเมืองด้ง อำเภอศรีสัชนาลัย ตัวแทนจากจังหวัดสุโขทัย และ 5. ผ้าทอลายดอกเสี้ยว ตัวแทนจากจังหวัดตาก
ทั้งนี้ นักศึกษา วปอ.บอ. รุ่นที่ 1 ขอเชิญชวนประชาชนทุกท่านที่อยากร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการนี้ช่วยกันผลักดันให้เกิดการพัฒนาและสนับสนุนผลิตภัณฑ์ของท้องถิ่นและชุมชนต่าง ๆ เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจที่ยั่งยืนไปด้วยกัน
ที่มาข้อมูล : วปอ.วอ.รุ่น 1
ที่มารูปภาพ : วปอ.วอ.รุ่น 1
Siriporn Boo
(siriporn_boo)