10 เรื่องน่ารู้ของสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า "ช้าง" ผ่านวันช้างไทย 13 มีนาคม

วันที่ 13 มีนาคมของทุกปี ถูกกำหนดให้เป็นวันช้างไทย เพื่อเป็นการยกย่อง "ช้าง" สัตว์คู่บ้านคู่เมืองของไทย และมีบทบาทสำคัญในหลายแง่มุมทั้งทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม เคียงข้างในวิถีชีวิตคนไทยมาอย่างยาวนาน และยังเป็นประชากรสัตว์ป่าที่มีบทบาทสำคัญต่อระบบนิเวศ ด้วยช้างเป็นสัตว์ใหญ่ มีพฤติกรรมการดำรงชีวิตที่ทำหน้าที่ให้ร่มเงาแก่สิ่งมีชีวิตอื่น ๆ (Umbrella species) ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เดียวกัน ซึ่งเพจเฟซบุ๊ก ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้รวบรวม 10 เรื่องน่ารู้ของช้าง ไว้ดังนี้

10 เรื่องน่ารู้ของสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า "ช้าง" ผ่านวันช้างไทย 13 มีนาคม

สรุปข่าว

13 มีนาคม "วันช้างไทย" เพจเฟซบุ๊กกรมอุทยานฯ รวมรวม 10 เรื่องน่ารู้ ของสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า "ช้าง" สัตว์ใหญ่คู่บ้านคู่เมืองของไทย

1. ช้างแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือช้างแอฟริกา มีงายาว หูใหญ่มาก พบได้ในทวีปแอฟริกา และช้างเอเชีย มีใบหูเล็ก หัวมีโหนก พบได้ในประเทศไทย เมียนมาร์ อินเดีย ศรีลังกา กัมพูชา ลาว มาเลเซีย และอินโดนีเซีย

2. ชื่อของช้างสามารถบอกเพศได้ ได้แก่ ช้างสีดอ คือ ช้างเพศผู้ ที่ไม่มีงา ช้างพลาย คือ ช้างเพศผู้ ที่มีงา ช้างพัง คือ ช้างเพศเมีย ซึ่งบางทีอาจมีงาเล็กๆ ออกมา เรียกว่า ขนาย

3. ช้างเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ที่นอนน้อยที่สุดในโลก โดยช้างป่านอนเพียง 1-3 ชั่วโมงต่อวัน หรือเฉลี่ย 1-2 ครั้ง ในลักษณะยืนนอนหรือยืนหลับเป็นช่วง ๆ บางตัวอาจนอนตะแคงราบเมื่อรู้สึกปลอดภัย

4. แม่ช้างที่สมบูรณ์เต็มวัยจะอุ้มท้องนานถึง 22 เดือน หรือเกือบ ๆ 2 ปี และตกลูกครั้งละ 1 ตัว

5. ช้างสายตาไม่ดีมองเห็นชัดเจนที่สุดในระยะไม่เกิน 10 เมตร และมีลักษณะอาการตาบอดสีแดงและสีเขียว แต่สามารถมองเห็นแม่สีหลักอื่น ๆ ได้ชัดเจน

6. งวงช้าง ประกอบไปด้วยกล้ามเนื้อมากกว่า 40,000 มัด มีความแข็งแรงมาก ใช้สำหรับหยิบจับ เป็นจมูก มือ และนิ้ว

7. ช้างเป็นสัตว์สังคมที่อยู่รวมกันเป็นฝูงหรือที่เราเรียกว่า “โขลง” ประกอบด้วย แม่ช้าง ลูกช้าง และช้างตัวอื่น ๆ โดยมี “แม่แปรก” หรือช้างที่อายุมากที่สุดเป็น จ่าโขลง

8. ช้างเป็นสัตว์ชนิดกินพืชที่มีพฤติกรรมเดินหากินไปเรื่อยๆ เป็นระยะทางไกล ซึ่งเอื้อประโยชน์ให้แก่สัตว์กินพืชชนิดอื่นที่มีขนาดเล็กกว่า  และ "มูลช้างป่า" ยังช่วยกระจายเมล็ดพันธุ์พืชได้กว้างไกลอีกด้วย

9. ช้างป่าเป็นสัตว์สังคมที่มีภาษาในการสื่อสารกันได้หลากหลายวิธี เช่น การแสดงท่าทาง การสัมผัส การส่งเสียง การรับแรงสั่นสะเทือน และการดมกลิ่น

10. ช้างป่ามักตกมันในฤดูหนาว หลังจากได้กินพืชอาหารที่สมบูรณ์ในช่วงฤดูฝน สังเกตอาการตกมันได้จากขมับทั้งสองข้างบวม มีน้ำมันไหลเปื้อนแก้ม และไหลเข้าปาก สามารถตกมันได้ทั้งในเพศผู้และเพศเมียที่โตเต็มวัย มีร่างกายสมบูรณ์ แข็งแรง อายุระหว่าง 16-60 ปี แต่ส่วนใหญ่จะเกิดกับช้างเพศผู้มากกว่า ส่วนช้างเพศเมียเกิดขึ้นได้แต่น้อยและไม่รุนแรง


วันที่ 13 มีนาคมของทุกปี ตรงกับวันช้างไทย อันเป็นวันที่ระลึกถึงการทำยุทธหัตถีของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และเป็นวันสำคัญที่มุ่งให้คนไทยตระหนักถึงความสำคัญของช้าง เริ่มต้นจากคณะอนุกรรมการประสานงานการอนุรักษ์ช้างไทย คณะกรรมการเอกลักษณ์ของชาติ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการอนุรักษ์ช้าง จึงเสนอมติต่อที่ประชุมรัฐสภาเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2541 ต่อมาคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบ และได้ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2541 ลงในราชกิจจานุเบกษาในวันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2541

ทั้งนี้ การมีอยู่ของช้างบ่งบอกถึงความสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติ ที่มีความสำคัญต่อการอนุรักษ์เป็นอย่างยิ่ง โดยในปัจจุบัน กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ยังคงอนุรักษ์และบริหารจัดการความเป็นอยู่ของช้างตามธรรมชาติ ร่วมกับหน่วยงาน องค์กร และชุมชนอย่างต่อเนื่อง

avatar

Jitrudee Buntaopis
(Jitrudee)