นายไพบูลย์ ณะบุตรจอม รองประธานคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา พร้อมคณะ ลงพื้นที่รับฟังปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนลุ่มแม่น้ำพิจิตรเก่า โดยมีนางสาวธนียา นัยพิจิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ร่วมรายงานสถานการณ์น้ำท่วมและภัยแล้งที่สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน
การลงพื้นที่ครั้งนี้สืบเนื่องจากการร้องเรียนของประชาชนเกี่ยวกับอาคารสูบน้ำดงเศรษฐี ตำบลย่านยาว อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร ที่ก่อสร้างเมื่อปี 2545 ด้วยงบประมาณเกือบ 200 ล้านบาท ประกอบด้วยอุโมงค์ลอดคอนกรีตเสริมเหล็กขนาด 3x3 เมตร จำนวน 2 ช่อง ความยาว 1.3 กิโลเมตร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสูบน้ำจากแม่น้ำน่านลงสู่แม่น้ำพิจิตรเก่า ครอบคลุมระยะทาง 127 กิโลเมตร
นายรักกี้ สุขประเสริฐ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลย่านยาวและประธานชมรมขุนศึกกู้วิกฤติแม่พิจิตรสายเก่า เปิดเผยว่า โครงการดังกล่าวส่งผลกระทบต่อประชาชน 4 อำเภอ 18 ตำบล 32 หมู่บ้าน เนื่องจากไม่สามารถใช้งานได้ตั้งแต่สร้างเสร็จ เพราะขาดระบบไฟฟ้าและงบประมาณค่ากระแสไฟฟ้า อีกทั้งอุปกรณ์ต่างๆ ชำรุดทรุดโทรม แม้ชาวบ้านพยายามเรี่ยไรเงินเพื่อซ่อมแซมและผันน้ำมาใช้เป็นครั้งคราว แต่ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้อย่างยั่งยืน
ปัจจุบันแม่น้ำพิจิตรสายเก่าประสบปัญหาถูกบุกรุกและรุกล้ำ จนตื้นเขิน มีสิ่งปลูกสร้างขวางทางน้ำตลอดระยะทาง ทำให้แม่น้ำแห้งขอด ไม่มีน้ำกักเก็บ ส่งผลให้ประชาชนขาดแคลนน้ำสำหรับอุปโภคบริโภคและการเกษตรมานานกว่า 20 ปี
นายไพบูลย์กล่าวว่า คณะกรรมาธิการฯ จะรวบรวมข้อมูลเสนอต่อประธานวุฒิสภาเพื่อผลักดันงบประมาณในการติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์สำหรับการสูบน้ำ พร้อมทั้งศึกษาแนวทางผันน้ำจากแม่น้ำปิงและแม่น้ำน่านเข้าสู่บึงสีไฟ เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมและภัยแล้งอย่างยั่งยืน
สรุปข่าว
