ทีมนักวิจัยไทยถึงแอนตาร์กติก (ขั้วโลกใต้) เริ่มสำรวจพบน้ำแข็งละลายเพิ่มขึ้น

ศ. ดร .สุชนา ชวนิชย์ อาจารย์ภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะวิทยาศาสตร์ และรองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยทรัพยากรทางน้ำ และศูนย์บริการวิชาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยพร้อมด้วยผศ. ดร. สุจารี บุรีกุล จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นายนิพัธ ปิ่นประดับ จากมหาวิทยาลัยบูรพา และนายภคินัย ยิ้มเจริญ ช่างภาพจากสยามโสภา ได้เดินทางถึงสถานีวิจัยเกรทวอลล์ (Great Wall Station) ที่แอนตาร์กติก เรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่วันที่ 29 มกราคมที่ผ่านมา 

เพื่อสำรวจเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มีต่อระบบนิเวศแอนตาร์กติก ภายใต้โครงการวิจัยขั้วโลกตามพระราชดำริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ของ มูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี  โดยทำการสำรวจระหว่างวันที่ 29 มกราคม ถึง 15 กุมภาพันธ์2568  นี้ 


ทีมนักวิจัยไทยถึงแอนตาร์กติก (ขั้วโลกใต้) เริ่มสำรวจพบน้ำแข็งละลายเพิ่มขึ้น

สรุปข่าว

ทีมนักวิจัยไทยถึงแอนตาร์กติก (ขั้วโลกใต้) เริ่มสำรวจพบน้ำแข็งละลายเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับในอดีต สาเหตุผลกระทบของโลกร้อน พร้อมเตรียมเผยแพร่งานวิจัยในรูปแบบสารคดี

ศ. ดร .สุชนา เปิดเผยว่า การสำรวจในปีนี้ ทางโครงการฯ ได้ส่งนักวิจัย 3 คน จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยบูรพา และช่างภาพ 1 คน เพื่อไปร่วมสำรวจกับคณะสำรวจทวีปแอนตาร์กติกแห่งจีน คณะที่ 41 (CHINARE 41) ของสถาบันวิจัยขั้วโลกแห่งจีน (PRIC)  โดยเดินทางถึงแอนตาร์กติกเมื่อสิ้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา และเริ่มทำการเก็บตัวอย่างทันที เพื่อศึกษาผลกระทบของขยะทะเล ไมโครพลาสติก และการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ  ที่มีต่อสัตว์ทะเล และระบบนิเวศทางทะเล  

โดยช่วงสองวันที่ผ่านมา ได้ทำการเก็บตัวอย่างดิน และมูลของแมวน้ำและเพนกวิน  รวมทั้งวัดมลพิษทางอากาศของที่บริเวณแอนตาร์ติกด้วย โดยจากการสำรวจเบื้องต้น พบว่า น้ำแข็งในหลายๆ ที่ของบริเวณแอนตาร์ติกได้ละลายและหายไป เมื่อเทียบกับ 11 ปีที่แล้วที่คณะไทยได้เคยมาทำการสำรวจ ส่วนมลพิษทางอากาศ ค่าที่ตรวจวัดได้พบว่าที่แอนตาร์ติกอากาศยังบริสุทธิ์มาก เมื่อเทียบกับอากาศบริเวณส่วนอื่นๆของโลก 

นอกจากนี้ ยังได้เริ่มเก็บตัวอย่างดินตะกอน เพื่อขยายผลศึกษาผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มีต่อระบบนิเวศแอนตาร์กติก พบว่า ปีนี้น้ำแข็งละลายมากกว่าปีก่อนๆ อย่างน่าตกใจ 


“การเดินทางมาครั้งนี้ เป็นไปตามความคาดหมายที่คิดว่าโลกร้อนน่าจะมีพบกระทบอย่างมากต่อน้ำแข็งและหิมะที่นี้  แต่ก็ต้องตกใจเช่นกัน ที่เห็นน้ำแข็งและหิมะหายไปในหลายๆ พื้นที่ นอกจากนี้ ช่วงเวลาที่อยู่ที่นี่ ถึงแม้จะมีหิมะตก แต่เมื่อหิมะเหล่านั้นตกถึงพื้น ก็จะละลายกลายเป็นน้ำ นั้นแสดงให้เห็นว่าอุณหภูมิบริเวณแอนตาร์กติกสูงขึ้นกว่าปกติ ทำให้หิมะที่ตกมาละลายกลายเป็นน้ำทันที หลังจากนี้ นักวิจัยก็จะเริ่มทำการเก็บตัวอย่างมูลของเพนกวิน และแมวน้ำ เพื่อมาวัดปริมาณของมลพิษต่างๆ รวมทั้งจุลินทรีย์ในมูล เพื่อดูว่าสัตว์เหล่านั้นได้รับผลกระทบจากภาวะโลกร้อนหรือไม่”ศ. ดร. สุชนา กล่าว

ศ. ดร. สุชนา เปิดเผยอีกว่า การเดินทางเข้าร่วมการวิจัยกับคณะสำรวจทวีปแอนตาร์กติกแห่งจีนครั้งนี้ นอกจากตนเองเป็นหัวหน้าทีมแล้ว  ยังมี ผศ. ดร. สุจารี บุรีกุล จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นายนิพัธ ปิ่นประดับ จากมหาวิทยาลัยบูรพา  และนายภคินัย ยิ้มเจริญ ช่างภาพจากสยามโสภา  ได้เดินทางมากับทีมไทยด้วย  

นอกจากจะทำการวิจัยแล้ว จะมีการเก็บภาพและวิดิโอ เพื่อใช้ในการจัดทำหนังสือและสารคดีเกี่ยวกับการศึกษาวิจัยขั้วโลกของไทย เนื่องในโอกาสปี 2568 นี้ เป็นปีมหามงคล สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระชนมายุ 70 พรรษา พร้อมทั้งเป็นการครบรอบ 50 ปี ของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างประเทศไทยกับสาธารณรัฐประชาชนจีน อีกด้วย

ที่มาข้อมูล : ศ. ดร .สุชนา ชวนิชย์

ที่มารูปภาพ : ศ. ดร .สุชนา ชวนิชย์

avatar

Siriporn Boo
(siriporn_boo)

แท็กบทความ

ทีมนักวิจัยไทย
นักวิจัยไทย
แอนตาร์กติก (ขั้วโลกใต้)
แอนตาร์กติกขั้วโลกใต้น้ำแข็งละลายโลกร้อน