

สรุปข่าว
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและความเสี่ยงทางชีวภาพ
นอกเหนือจากภัยคุกคามจากอาวุธแล้ว การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้นาฬิกาวันสิ้นโลกถูกปรับเข้าใกล้เที่ยงคืน การขาดความคืบหน้าในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและการจัดการกับภาวะโลกร้อน ทำให้โลกเผชิญกับภัยธรรมชาติที่รุนแรงขึ้น อีกทั้งยังมีความเสี่ยงที่เทคโนโลยีชีวภาพจะถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด ซึ่งอาจส่งผลกระทบร้ายแรงต่อมนุษยชาติ
แดเนียล โฮลซ์ ประธานคณะกรรมการด้านวิทยาศาสตร์และความมั่นคงของ BAS เน้นย้ำว่าการตั้งนาฬิกาวันสิ้นโลกที่ 89 วินาทีก่อนเที่ยงคืนเป็นสัญญาณเตือนที่ชัดเจนถึงความจำเป็นที่ผู้นำโลกต้องร่วมมือกันเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว เขากล่าวว่า “เรายังไม่เห็นความคืบหน้าเพียงพอในการรับมือกับภัยคุกคามเหล่านี้ และในบางกรณี สถานการณ์กลับเลวร้ายลง”
BAS ระบุว่าสหรัฐฯ จีน และรัสเซียมีหน้าที่หลักในการดึงโลกออกจากจุดวิกฤต และเรียกร้องให้มีการเจรจาด้วยความจริงใจเพื่อหลีกเลี่ยงภัยพิบัติระดับโลก ขณะที่ฮวน มานูเอล ซานโตส อดีตประธานาธิบดีโคลอมเบียผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ได้กล่าวเสริมว่า แม้ภาพรวมของสถานการณ์จะดูเลวร้าย แต่ก็ยังมีโอกาสในการแก้ไขปัญหาหากนานาชาติร่วมมือกันอย่างจริงจัง
การปรับเวลานาฬิกาวันสิ้นโลกให้ใกล้เที่ยงคืนมากที่สุดเป็นประวัติการณ์เป็นเครื่องเตือนใจว่ามนุษยชาติยังคงเผชิญกับความท้าทายและภัยคุกคามร้ายแรงที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน ไม่ว่าจะเป็นอาวุธนิวเคลียร์ AI ทางทหาร หรือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การตัดสินใจของ BAS เป็นการกระตุ้นให้ผู้นำทั่วโลกและประชาชนตระหนักถึงความจำเป็นในการร่วมมือกันเพื่อป้องกันหายนะที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
ที่มาข้อมูล : Bulletin of the Atomic Scientists (BAS)
ที่มารูปภาพ : AFP

Chayapha Pakdeesri
(Chayapha)