ครม.สัญจร สงขลาจ่อเคาะ 302 ล้านบาทฟื้นฟูน้ำท่วม-เร่งรถไฟรางคู่เชื่อมท่องเที่ยวไทย-มาเลเซีย

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การคณะรัฐมนตรีสัญจร ที่จังหวัดสงขลา ในวันที่ 18 ก.พ.นี้ มีหลากหลายประเด็นที่จะพิจารณา โดยเฉพาะการอนุมัติงบประมาณในพื้นที่ภาคใต้ทั้งฝั่งอันดามันและฝั่งอ่าวไทย โดยจะมีงบที่เกี่ยวข้องกับการฟื้นฟูสาธารณูปโภคที่เกี่ยวข้องกับน้ำท่วมเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา วงเงินประมาณ 302 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นที่จังหวัดยะลา ปัตตานี และนราธิวาส ประมาณจังหวัดละ 100 ล้านบาท ส่วนใหญ่จะเป็นการพัฒนาพื้นที่ พัฒนาเส้นทางถนน สร้างเขื่อนริมคลองต่างๆที่มีสภาพชำรุดทรุดโทรมเสียหาย

นอกจากนี้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี จะพิจารณาเรื่องของการส่งนักศึกษา หรือนักเรียนที่จบ ม. 6 ไปเรียนต่อตามมหาวิทยาลัย ตามโครงการ หนึ่งอำเภอหนึ่งทุน หรือ โอดอส เบื้องต้น 30,000 บาท ต่อคนต่อปี

ส่วนเรื่องสำคัญของจังหวัดสงขลาที่น่าสนใจ คือ การสนับสนุนเรื่องสถานที่ท่องเที่ยว หรือการอนุรักษ์ทางธรรมชาติ ซึ่งจะมีการพิจารณางบประมาณ 402 ล้านบาท ในการดูแลโลมาอิรวดีในทะเลสาบสงขลาเป็นแผนระยะ 5 ปี เพื่อวิจัยและพัฒนาสายพันธุ์ ถือเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวและร่วมกันอนุรักษ์พันธุ์ปลาสำคัญ 


ครม.สัญจร สงขลาจ่อเคาะ  302 ล้านบาทฟื้นฟูน้ำท่วม-เร่งรถไฟรางคู่เชื่อมท่องเที่ยวไทย-มาเลเซีย

สรุปข่าว

โฆษกรัฐบาล เผย ครม. สัญจรสงขลา เตรียมพิจารณางบฟื้นฟูสาธารณูปโภคน้ำท่วม 3 จังหวัดชายแดนใต้ 302 ล้านบาท พร้อมต้องเร่งรถไฟทางคู่ เชื่อมการค้าไทย-มาเลเซีย รับทราบความคืบหน้าโครงการแลนด์บริดจ์

ด้านการท่องเที่ยว ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ได้รายงานว่าปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวจากมาเลเซียจำนวนมากเดินทางเข้ามายังด่านสะเดาและด่านปาดังเบซาร์ซึ่งตนได้เดินทางไปที่อำเภอเบตง จังหวัดยะลา ซึ่งตนไม่เคยไปมาก่อนเป็นครั้งแรกในชีวิตตื่นเต้นมาก เพราะดูแล้วเป็นเมืองที่มีความคึกคักนักท่องเที่ยว 95% เป็นชาวมาเลเซีย เรียกว่าตลาดทั้งคืนตั้งแต่หัวค่ำยันตี 2 ถึงตี 3 อย่างคึกคักฉะนั้นที่เบตงจะเป็นจุดท่องเที่ยวสำคัญแห่งหนึ่ง ขณะเดียวกันจะมีการส่งข้อมูลให้กับคณะรัฐมนตรีได้ไปพิจารณาเนื่องจากที่เบตง มีการสร้างสนามบินแห่งใหม่ใหญ่มาก แต่เครื่องบินพาณิชย์เคยมาลงครั้งสุดท้ายประมาณเดือนพฤศจิกายนปี 2566 ผ่านมาแล้ว 1 ปี แต่หยุดบริการไป  ซึ่งอำเภอเปตง จังหวัดยะลาเป็นจุดท่องเที่ยวอีกจุดหนึ่ง ส่วนที่อำเภอสงขลาขณะนี้นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียเข้ามาจำนวนมาก ซึ่งทางคณะทำงานได้ไปดูเพื่อพิจารณาสนับสนุนด้านการท่องเที่ยวต่อไป และในวันพรุ่งนี้ (18 ก.พ.) เวลา 15:00 น นายกรัฐมนตรีจะเดินไปที่ด่านสะเดา อำเภอสะเดาจังหวัดสงขลา ซึ่งตรงนั้นเป็นด่านที่ใช้บริการจำนวนมาก เป็นจุดที่รถผ่านเข้าออกวิ่งจากสะเดาผ่านไปปีนัง หรือวิ่งลงไปทางใต้ และกัวลาลัมเปอร์จะมีการพัฒนาตรงนั้น แต่ด่านสะเดาแห่งใหม่ไม่สามารถเปิดให้บริการได้ เนื่องจากมีรอยต่อเส้นทางไทย-มาเลเซีย ประมาณ 300 เมตร ซึ่งรัฐบาลมาเลเซียทำถนนมาจ่อไว้แล้ว โดยจะต้องทำถนนต่อเนื่องไปอีก 300 เมตรหลังจากผ่านด่านศุลกากรของเราไป ฉะนั้นคงจะมีการพูดคุยกัน และองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลาได้เคยเสนองบฯไว้ เพียง 28 ล้าน หากรัฐบาลพิจารณาแล้วจะสามารถใช้ได้หรือไม่แบบไหนอย่างไรก็จะเร่งเปิดให้บริการ เพื่อลดความแออัดของด่านสะเดาเดิม
แยกสินค้าไปด่านแห่งใหม่ ส่วนนักท่องเที่ยวสามารถที่จะเดินทางข้ามไปยังมาเลเซีย หรือชาวมาเลเซียข้ามเข้ามาไทยได้ นอกจากนี้ยังมีเรื่องของนักท่องเที่ยวมาเลเซียที่นิยมการขับรถทั้งมอเตอร์ไซค์รถยนต์ ซึ่งขณะนี้ชาวมาเลเซียสามารถขับรถจากประเทศเพื่อนบ้านเรายาวไปถึงจังหวัดเชียงใหม่และไปได้ทั่วไทยถือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวอีกทางหนึ่ง

เมื่อว่าการยกระดับรถไฟรางคู่ ที่ปาดังเบซาร์ มีความคืบหน้าอย่างไร นายจิรายุ กล่าวว่า ระเบียบวาระการพิจารณา ในการประชุมคณะรัฐมนตรี จะเป็นวาระจร
ซึ่งนายกรัฐมนตรีเคยเดินทางไปที่จังหวัดยะลา และจังหวัดนราธิวาส ก็ได้มีการพูดถึงรถไฟทางคู่ เมื่อมาถึงชุมทางหาดใหญ่จะไป 2 จุดซ้าย ขวา ไปด่านปาดังเบซาร์ซึ่งทั้ง 2 จุดนี้ถือเป็น 2 จุดสำคัญที่จะพัฒนาด้านการขนส่งสินค้า และเป็นการเชื่อมต่อกรุงเทพฯ-ภาคใต้ ถือเป็นการพัฒนาที่นายกรัฐมนตรีได้ดำริเอาไว้แล้วส่วนตรวจสินค้าของด่านศุลกากรขณะนี้ ด่านสะเดาใช้เครื่องเอกซเรย์รุ่นใหม่ไม่ต้องเปิดตู้สามารถมองจากในห้องจะเห็นได้ว่าสินค้าต่างๆเป็นอะไร แบบไหน

ฉะนั้นเรื่องของรถไฟทางคู่มาภาคใต้นายกรัฐมนตรีดำริชัดเจนต้องเร่งดำเนินการเพื่อทำการค้าขายระหว่างภาคใต้ตั้งแต่ชายแดนสิงคโปร์ กัวลาลัมเปอร์ ปาดังเบซาร์เข้าสู่ประเทศไทยผ่านไปยังประเทศในอินโดจีน ส่วนความคืบหน้าโครงการแลนด์บริดจ์ หลังจากนายกรัฐมนตรีได้เชิญชวนนักธุรกิจจีนที่ได้ประชุมกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ที่กรุงปักกิ่ง นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาเพิ่มเติม และถอดแบบออกมาให้ชัดเจนว่า หลังจากที่รัฐบาลนายเศรษฐี ทวีสิน อดีตนายกรัฐ 
มนตรี ได้พิจารณาโครงการนี้ไปแล้วปัจจุบันเราจะเสนออย่างไร ซึ่งจะมีการรายงานตัวที่ประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรครั้งนี้


ด้านนายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า 
ชาวสงขลารู้สึกยินดีที่นายกรัฐมนตรีเดินทางมาเยือนเป็นครั้งแรกของปีนี้ หวังว่าสิ่งดีๆจะเกิดขึ้นกับพี่น้องชาวสงขลาและในอนาคต

ส่วนน.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แหลง
ภาษาใต้ ขอบคุณสำหรับการต้อนรับ นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีถือเป็นครั้งแรกของปี 2568 และคณะรัฐมนตรีได้มาประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรที่จังหวัดสงขลา พร้อมเชิญชวนชาวใต้ทุกคนมาฟังว่าคณะรัฐมนตรีจะมีอะไรมาให้ชาวใต้บ้างในฐานะของชาวใต้ และในฐานะรองโฆษกรัฐบาล รู้สึกเป็นเกียรติที่นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีสัญจรได้มาประชุมเป็นครั้งแรกในปี 2568 ชาวใต้ทุกคนหวังว่าจะมีสิ่งดีๆมีการพัฒนาหลายอย่างตามมาแน่นอน

ที่มาข้อมูล : tnn

ที่มารูปภาพ : tnn

แท็กบทความ

จิรายุ
ครม.สัญจร
รถไฟรางคู่เชื่อมการค้าไทย-มาเลเซีย
งบฟื้นฟูสาธารณูปโภคน้ำท่วม
แลนด์บริดจ์