สงสัยกันไหม ? ทรัมป์ จะทำอะไรต่อ หลังพ้นตำแหน่ง?

วันนี้ ( 11 พ.ย. 63 )ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ จะยังคงอยู่ในตำแหน่งไปถึงวันที่ 20 มกราคม ซึ่งเป็นวันที่ผู้นำคนใหม่สาบานตนรับตำแหน่ง 

 

ผู้นำคนก่อนๆ เมื่อพ้นจากตำแหน่งไปก็จะมีกิจกรรมทำ ไม่ว่าจะเป็นไปในทางมูลนิธี อย่าง จิมมี่ คาร์เตอร์ ที่ทำเกี่ยวกับความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม  หรือ จอร์จ ดับเบิลยู บุช (บุชผู้ลูก) ที่มีงานอดิเรกวาดภาพ ก็กลายเป็นกิจกรรมหลังเกษียณที่สร้างความสุขได้ไม่น้อย  แต่ ทรัมป์ ไม่ใช่นักการเมืองที่อยู่ในขนบมากนัก

 

ทิม คัลกินส์ ศาสตราจารย์ด้านการตลาด แห่ง Northwestern Unoversity’s Kellogg School of Management บอกว่า โดนัลด์ ทรัมป์ แหกทุกขนบธรรมเนียมของประธานิบดีเกือบทุกอย่าง จึงน่าวิเคราะห์ว่า เขาจะทำอะไรต่อหลังจากนี้

 

1.  เขาอาจกลับมาสมัครปธน.อีกสมัย

 

นี่อาจไม่ใช่ที่สิ้นสุดเส้นทางการเมืองของทรัมป์ เพราะเขาอาจกลับมาสมัครอีกสมัย เหมือนอดีตปธน. Grover Cleveland ที่ดำรงตำแหน่งสมัยแรกปี 1885 ก่อนที่จะแพ้ และกลับมาในอีก 4 ปีหลังจากนั้น ในปี 1983 และได้ครองเก้าอี้อีกสมัย 

 

ตามรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ บอกแค่ว่า จะครองตำแหน่งได้แค่ 2 สมัย แต่ไม่ได้ระบุว่า ต้องเป็น 2 สมัยต่อกัน ทำให้อดีตผู้ช่วยของทรัมป์ Mick Mulvaney มองว่า ทรัมป์อาจกำลังหาทางกลับมาสมัครอีกสมัย ในปี 2024  เพราะต้องไม่ลืมว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ ทรัมป์ได้คะแนน popular vote มากถึง 71.5 ล้านเสียง สูงที่สุดสำหรับผู้แพ้

ศ.คัลกินส์ บอกว่า เขาอาจจะกำลังหาทางออกจากตำแหน่ง ให้สวยงามเหมือนกับตอนที่เขาเข้ามาอยู่ในตำแหน่ง และตอนนี้กำลังมีความเป็นไปได้เช่นกันว่า ลูกชายคนโตของเขา โดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ ก็กำลังสนใจจะสมัครเป็นตัวแทนพรรคชิงตำแหน่งปธน.สหรัฐฯอยู่เช่นกัน

 

2.  กลับไปกู้ภาพอาณาจักรทรัมป์ 

ก่อนที่เขาจะกลายมาเป็นนักการเมือง เขาเป็นนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์คนดัง เป็นเจ้าของรายการเรียลริตี้ และเป็นแบรนด์แอมบาซเดอร์ของตัวเอง ด้วยการใช้ชื่อ “ทรัมป์” ในการขายสิทธิบัตรต่างๆ  ดังนั้นเป็นไปได้สูงว่าหลังสิ้นสุดตำแหน่งผู้นำ เขาจะกลับไปสู่ลูปเดิม กับการทำธุรกิจของตนเอง

 

New York Times รายงานว่า ทรัมป์มีกำหนดชำระกู้เงินกว่า 400 ล้านดอลลาร์  ในอีกไม่กี่ปีนี้ แม้จะเป็นจำนวนที่สูงมาก แต่คิดเป็นสัดส่วนเพียงน้อยนิดเมื่อเทียบกับมูลค่าอาณาจักรของเขา  ซึ่ง Trump Organization มีโรงแรม และสนามกอล์ฟหลายแห่ง 

 

ยังมีแบรนด์โรงแรม “ทรัมป์” ในมุมไบ, อิสตันบูล, ฟิลิปปินส์ และวอชิงตัน ดีซี , มีสนามกอล์ฟในสหรัฐ, อังกฤษ , ดูไบ และอินโดนีเซีย 

 

และหากทรัมป์เลือกทางนี้ จะมีงานใหญ่ให้เขาทำอีกมาก เพราะเป็นธุรกิจที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากวิกฤตโควิด-19 ซึ่ง Forbes รายงานว่า มูลค่าทรัพย์สินของเขาอาจลดลงถึง 1 พันล้านดอลลาร์ จากโควิด-19

 

3.  เป็นเจ้าพ่อสื่อ

แน่นอนว่าปธน.ทรัมป์ ไม่ได้เป็นคนไม่คุ้นเคยกับโทรทัศน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่เขาเป็นหน้าตาของรายการเรียลิตี้ Apprentice ดังนั้นจึงมีการคาดการ์อย่างมาก ว่าเขาอาจกลับเข้าสู่วงการสื่ออีกครั้ง อาจเป็นการเปิดสถานีใหม่ หรือจับมือกับพันธมิตรด้านอนุรักษ์นิยมของเขา 

 

และหากเป็นเช่นนั้นจริง เขาจะมีแฟนตัวยงคอยติดตามไม่น้อย เพราะเขามีคาร์แรคเตอร์ และอาจสร้างแบรนด์ของเขา ที่เรียกว่า “love-to-hate personality” อย่าง คาร์เดเชียน หรือ Howard Stern เป็นต้น

 

4.  เกษียณอายุหลังสิ้นสุดตำแหน่ง

 

ไม่ทำอะไรเลย รับเงินบำนาญปธน. .. โดยตามบทบัญญัติว่าด้วย “อดีตประธานาธิบดี” ในปี 1958 จะมีเงินบำนาญสำหรับอดีตปธน.ที่สิ้นสุดตำแหน่ง ปีละราว 207,800 ดอลลาร์ หรือราว 6 ล้านบาท 

 

อีกทั้งอดีตปธน.สหรัฐฯ จะได้รับการดูแลคุ้มครองจาก Secret Service หรือการอารักขาเทียบเท่าประธานาธิบดี ตลอดชีวิต , มีสวัสดิการด้านสุขภาพ, มีค่าเดินทาง+ค่าผู้ติดเตาม 

 

ดังนั้นก็อาจเป็นได้ว่า ทรัมป์อาจจะแค่ รีไทร์ หรือปลดเกษียณตัวเองเงียบๆ ไปตีกอลฟ์ที่มาร์อะลาโก, ปาล์มบีช ฟลอริดา  .. แต่ศาสตราจารย์ คัลกินส์ บอกว่าแนวทางนี้อาจเกิดขึ้นไม่ได้ง่าย ๆ กับคนที่ใช้ชีวิตท่ามกลางสปอตไลท์มาตลอดชีวิต และเมื่อเดือนตุลาคม ทรัมป์เคยเปรยเอาไว้ว่า หากเขาแพ้การเลือกตั้ง เขาคงรู้สึกแย่มากๆ และอาจโยกย้ายออกจากประเทศนี้ก็ได้ เขาก็ไม่รู้เหมือนกัน

เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
facebook live : TNN Live
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNThailand
Instagram : @tnn_online
TIKTOK : @tnnonline