ส่อระอุ!อินเดียเคลื่อนทหารหลายหมื่น ประชิดชายแดนพิพาทจีน
อินเดียเคลื่อนกำลังพล 35,000 นายเข้าไปประจำการในพื้นที่พิพาทกับจีนบนเทือกเขาหิมาลัยท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างสองชาติ
วันนี้ ( 30 ก.ค. 63 )จำนวนทหาร 35000 นายของอินเดียนี้เป็นการเสริมกำลังเพิ่มเติมตามแนวชายแดนบนเทือกขาวหิมะลัยที่ติดกับจีน หลังเกิดความตึงเครียดระหว่างจีนและอินเดีย ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งทหารสองฝ่ายปะทะกันในพื้นที่พิพาทจนทำให้ทหารอินเดียเสียชีวิตไป 20 นาย ส่วนฝั่งจีนไม่ได้รายงานความสูญเสีย แต่หลังจากนั้นทั้งสองชาติต่างเร่งเสริมกำลังพล และอาวุธยุทโธปกรณ์เข้าไปในพื้นที่
โดยกองทัพอินเดียได้ส่งกำลังพลเข้าไปในพื้นที่อีกหลายพันนาย ขณะที่กองทัพอากาศอินเดียได้ส่งเครื่องบินรบซูคอย 30-MKI และเครื่องบินขับไล่มิราจ2000 รวมถึงเฮลิคอปเตอร์โจมตีอาพาชี เข้าไปประจำการตามฐานทัพอากาศหลยาแห่งเช่นที่เมืองเลห์ และศรีนาคา
นอกจากนั้น ในสัปดาห์นี้ มีรายงานว่ากองทัพอินเดียได้ส่งรถถังอีก 90 คัน รวมทั้งกำลังพลอีก 4000 นายเข้าไปในฐานทัพเดาลัต เบก โอลดีด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้จีนรุกล้ำเข้ามาใกล้ด่าน ชัคกาม คาราโคราม ในขณะที่มีรายงานว่าจีนมีกำลังพลประจำการในอัคไสชิน รอบๆเส้นควบคุมแท้จริงราว 50,000 นาย
ด้าน บี เค ชาร์มา ผู้อำนวยการสถาบัน United Service Institution แห่งอินเดีย ระบุว่า สภาพธรรมชาติของเส้นควบคุมแท้จริง หรือ Line of Actual Control ที่มีความยาว 3,488 กิโลเมตร ได้เปลี่ยนแปลงไปตลอดกาลแล้ว เพราะทั้งสองฝ่ายต่างเข้าไปเสริมกำลังทหาร และจะไม่มีการถอยกำลังกลับ ยกเว้นแต่ว่าจะมีการสมานฉันท์กันในระดับสูงสุดของฝ่ายการเมืองของทั้งสองชาติ
ขณะที่ตอนนี้การปะทะของทั้งสองฝ่ายได้ยุติลงแล้ว โดยนายหวัง เหวินบิน โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน ระบุว่า กำลังจะมีมีการหารือในระดับผู้บัญชาการทหารของทั้งสองฝ่ายเป็นครั้งที่ห้า เพื่อแก้ไขความขัดแย้งในพื้นที่ ทางการจีนหวังว่า อินเดียจะทำงานไปในเป้าหมายเดียวกับจีน และยึดมั่นในสันติภาพและความสงบตามแนวชายแดน
ด้านเซาธ์ ไชนา มอร์นิ่งโพสต์ รายงานว่า ระบุว่า กองทัพอินเดียได้ให้คำมั่นในการปกป้องชายแดน ตั้งแต่เรื่องชายแดนพื้นที่พิพาทที่ติดกับปากีสถานความยาว 742 กิโลเมตรอยู่ก่อนแล้ว ไปจนถึงรับมือกับการก่อความไม่สงบในแคว้นจัมมูและแคชเมียร์ รัฐทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ รวมถึงเฝ้าระวังการรุกล้ำของจีนตามแนวชายแดนติดอินเดีย
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า การเสริมกำลังทหารในพื้นที่ที่อุณหภูมิสามารถหนาวเหน็บถึง -30 องศาเซลเซียสในช่วงฤดูหนาวนั้น เป็นบททดสอบอาจหนักหนาสาหัส เพราะอากาศหนาวจัดนั้นเป็นอุปกสรรคต่อการสร้างที่พำนักสำหรับทหารและที่เก็บยุทโธปกรณ์ต่างๆ ขณะที่ต้องมีการขนย้ายเชื้อเพลิง อาหาร เวชภัณฑ์ และอุปกรณ์ต่างๆเข้าไปในพื้นที่ล่วงหน้าเพราะถนนสองสายที่สามารถเข้าสู่พื้นที่ดังกล่าวจะปิดลงในเดือนธันวาคม
ขณะที่แม้อินเดียเป็นชาติที่ใช้จ่ายด้านกลาโหมมากเป็นอันดับสามของโลก แต่ยุทโธปกรณ์ต่างๆ ยังล้าสมัยอยู่มาก เพราะ 60% ของงบประมาณนั้นไปอยู่ที่การจ่ายเงินเดือนให้ทหารอินเดีย 1.3 ล้านคน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในกองทัพที่มีกำลังพลมากที่สุดในโลก
เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
facebook live : TNN Live
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNThailand
Instagram : @tnn_online
TIKTOK : @tnnonline