อินโดนีเซียยังห้ามขาย iPhone 16 แม้แอปเปิลขอลงทุนเพิ่ม

รัฐบาลอินโดนีเซียประกาศยืนยันคำสั่งห้ามการขายไอโฟน 16 ต่อไป แม้ว่าแอปเปิลจะให้คำมั่นว่าจะลงทุน 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 34,000 ล้านบาทในประเทศ หลังจากการเจรจาล้มเหลว โดยระบุถึงความล้มเหลวของบริษัทในการปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านตลาดภายในประเทศ

ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนตุลาคม 2024 อินโดนีเซียได้ห้ามการตลาดและการขายไอโฟน 16 เนื่องจากแอปเปิลไม่สามารถปฏิบัติตามข้อบังคับการลงทุนในท้องถิ่น ซึ่งกำหนดให้ 40% ของชิ้นส่วนโทรศัพท์ต้องผลิตจากวัสดุในประเทศ เพื่อส่งเสริมการลงทุนจากบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่

โรซาน รอซลานี รัฐมนตรีกระทรวงการลงทุนของอินโดนีเซียได้บอกกับผู้สื่อข่าวในวันอังคาร (7 ม.ค.) ว่า แอปเปิลได้ให้คำมั่นที่จะลงทุน 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 34,000 ล้านบาท เพื่อสร้างโรงงานผลิต AirTag ที่เกาะบาตัม ซึ่งคาดว่าจะผลิตสินค้าถึง 65% ของการผลิตทั้งหมดในระดับโลก

อย่างไรก็ตาม ยังไม่ชัดเจนว่า ข้อตกลงในการสร้างโรงงานในเขตอุตสาหกรรมนี้ได้มีการลงนามหรือไม่

อากุส กูมิวัง การตาซัสมิธา รัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมของอินโดนีเซียกล่าวในที่แถลงข่าวเมื่อวันพุธ (8 ม.ค.) ว่า "AirTag เป็นอุปกรณ์เสริม ไม่ใช่ชิ้นส่วนหรือส่วนประกอบของอุปกรณ์ จนถึงบ่ายวันนี้ กระทรวงยังไม่มีเหตุผลใด ๆ ที่จะออกใบรับรองระดับชิ้นส่วนในประเทศสำหรับผลิตภัณฑ์ของแอปเปิล โดยเฉพาะไอโฟน 16" 

อากุสได้พบกับตัวแทนจากแอปเปิลเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา แต่เขาบอกว่า ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้

เขากล่าวว่า เจ้าหน้าที่ของอินโดนีเซียได้เสนอข้อเสนอใหม่ให้กับแอปเปิล แต่บริษัทผู้ผลิตโทรศัพท์ยักษ์ใหญ่ยังไม่ได้ตอบกลับทันที

ก่อนหน้านี้ แอปเปิลได้เสนอเพิ่มการลงทุนในอินโดนีเซียอีก 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 3,400 ล้านบาท เพื่อยกเลิกคำสั่งห้ามขายไอโฟน 16 แต่รัฐบาลอินโดนีเซียได้ปฏิเสธข้อเสนอในเดือนพฤศจิกายน 2024

แม้ว่าจะมีคำสั่งห้ามขาย แต่รัฐบาลอินโดนีเซียยังอนุญาตให้ไอโฟน 16 เข้าสู่ประเทศได้ หากไม่ได้มีการซื้อขายเชิงพาณิชย์

รัฐบาลประเมินว่าไอโฟน 16 จำนวนประมาณ 9,000 เครื่อง ได้เข้าสู่ประเทศในลักษณะนี้

นอกจากนี้ อินโดนีเซียยังได้ห้ามการขายโทรศัพท์ Google Pixel เนื่องจากไม่สามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดการใช้ชิ้นส่วนในประเทศ 40% โดยเมื่อปีที่แล้วมี Google Pixel ประมาณ 22,000 เครื่องที่เข้าไปในประเทศ แม้จะมีคำสั่งห้ามก็ตาม