รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส ยันสหภาพยุโรป หรืออียู จะไม่ปล่อยให้ชาติอื่นโจมตี “เขตแดนอธิปไตย” ของตน ตอบโต้ถ้อยแถลงของโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่อยากยึดครองเกาะกรีนแลนด์ ดินแดนปกครองตนเองของเดนมาร์ก
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ทรัมป์เน้นย้ำถึงความปรารถนาของเขาที่อยากได้เกาะกรีนแลนด์ โดยกล่าวว่า มันเป็นความ “สำคัญอย่างยิ่ง” สำหรับความมั่นคงของชาติและเศรษฐกิจ และไม่ปฏิเสธที่จะใช้กำลังทหารเพื่อยึดเกาะกรีนแลนด์ ขณะที่ ฌอง-โนเอล บาร์โรต์ รัฐมนตรีต่างประเทศของฝรั่งเศส ให้สัมภาษณ์วิทยุฝรั่งเศสว่า "ไม่ต้องสงสัยเลยว่าสหภาพยุโรปจะปล่อยให้ประเทศอื่น ๆ ในโลกโจมตีเขตแดนอธิปไตยของตน ไม่ว่าจะเป็นประเทศใดก็ตาม"
ส่วนมูเต เอเกเด นายกรัฐมนตรีของกรีนแลนด์ กำลังผลักดันเพื่อแยกตัวเป็นเอกราช และแสดงท่าทีชัดเจนเช่นกันว่า ดินแดนแห่งนี้ไม่ได้มีไว้ขาย และเขาเดินทางไปยังกรุงโคเปนเฮเกน เมืองหลวงเดนมาร์ก เพื่อหารือเรื่องนี้เมื่อวานนี้ (8 มกราคม)
ขณะที่นายกรัฐมนตรีเดนมาร์ก เมตเต เฟรเดอริกเซน กล่าวกับทีวีเดนมาร์กในวันอังคารที่ผ่านมาว่า เกาะกรีนแลนด์เป็นของชาวกรีนแลนด์ และว่า มีเพียงประชากรในท้องถิ่นเท่านั้นที่จะสามารถตัดสินอนาคตตนเองได้
ความเคลื่อนไหวทั้งหมดเกิดขึ้นหลังจาก “ทรัมป์” จัดแถลงข่าวที่บ้านพักมาร์-อา-ลาโก ในรัฐฟลอริดา ไม่ถึงสองสัปดาห์ก่อนสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เป็นสมัยที่ 2 ในวันที่ 20 มกราคมนี้ ซึ่งเมื่อถูกถามว่าเขาจะตัดสินใจไม่ใช้กำลังทหารหรืออิทธิพลทางเศรษฐกิจเพื่อเข้ายึดครองกรีนแลนด์ หรือคลองปานามาหรือไม่ ทรัมป์กล่าวว่า “ไม่ เขาไม่สามารถรับรองได้ในทั้งสองกรณีนั้น แต่สามารถกล่าวได้ว่า เราต้องการทั้งสองแห่งเพื่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจ”
ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการยุโรป ยังบอกด้วยว่า มาตรา 42.7 ของสนธิสัญญาลิสบอนของสหภาพยุโรป จะใช้กับกรีนแลนด์ในกรณีที่เกิดการรุกรานด้วยอาวุธ โดยมาตร 42.7 ระบุว่า "หากประเทศในสหภาพยุโรปตกเป็นเหยื่อของการรุกรานด้วยอาวุธในดินแดนของตน ประเทศในสหภาพยุโรปอื่น ๆ ก็มีภาระผูกพันที่จะต้องให้ความช่วยเหลือ และช่วยเหลือประเทศนั้นด้วยวิธีการทุกวิถีทางตามอำนาจของตน”