นิปปอนแถลงไม่เลิกซื้อกิจการยูเอส สตีล

การแสดงท่าทีดังกล่าว มีขึ้นระหว่างการแถลงข่าวของนายเอจิ ฮาชิโมโต ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร หรือ ซีอีโอของบริษัทนิปปอน สตีล  ที่กรุงโตเกียว เมื่อวานนี้ และระบุด้วยว่า การเป็นหุ้นส่วนกับบริษัท ยูเอส สตีล บริษัทค้าเหล็กของสหรัฐฯ สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯเรื่องการส่งเสริมภาคการผลิตในสหรัฐฯและเชื่อว่าเรื่องนี้จะทำให้รัฐบาลชุดใหม่ของสหรัฐฯเข้าใจได้ดี

   

การแถลงข่าวของซีอีโอของนิปปอน สตีล มีขึ้นขณะนิปปอน สตีลและบริษัท ยูเอส สตีล ร่วมกันยื่นฟ้องศาลซึ่งข่าวไม่ระบุรายละเอียดอื่น ๆ กล่าวหาประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ ใช้อำนาจฝ่ายบริหารสกัดขัดขวางการเสนอเข้าซื้อกิจการของบริษัท ยูเอส สตีล มูลค่า 14,900 ล้านดอลลาร์ หรือ ประมาณ 5.1แสนล้านบาท ของนิปปอน สตีล โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ด้วยการยกเหตุผลด้านความมั่นคงแห่งชาติขึ้นมาอ้างอย่างน่าละอาย  และไม่ได้รับการตรวจสอบที่เหมาะสมของคณะกรรมการด้านการลงทุนของต่างประเทศในสหรัฐฯ อีกทั้งเป็นการละเมิดสิทธิ์ของบริษัทเอกชนเพื่อรับการพิจารณาตรวจสอบที่เป็นธรรมด้วย การตัดสินใจของนายไบเดนเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมเหล็กของสหรัฐฯอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากอย่างยิ่ง

  

การเสนอซื้อกิจการของยูเอส สตีล กลายเป็นเรื่องการเมืองตั้งแต่ก่อนเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายนปีที่แล้ว ฝ่ายรีพับลิกันและเดโมแครต ต่างประกาศจะขวางการเข้าซื้อกิจการดังกล่าวเพื่อเอาใจผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในรัฐเพนซิลเวเนีย ซึ่งเป็นหนึ่งในรัฐสวิง สเตท ที่มีการแข่งขันสูงและเป็นที่ตั้งของบริษัท ยูเอส สตีล ทรัมป์และไบเดน ต่างประกาศยืนยันยูเอส สตีล ควรอยู่เป็นของชาวอเมริกัน แม้ฝ่ายนิปปอน สตีล เสนอย้ายสำนักงานใหญ่ในสหรัฐฯไปอยู่เมืองพิตต์สเบิร์ก เมืองดียวกันกับสำนักงานของยูเอส สตีล และ ให้คำมั่นจะเคารพข้อตกลงทุกประการระหว่างบริษัทยูเอส สตีล และ สหภาพคนงานเหล็กของสหรัฐฯ หรือ ยูเอสดับเบิลยู

ขณะที่แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เข้าพบหารือนายกรัฐมนตรี ชิเงรุ อิชิบะที่กรุงโตเกียวและเป็นการเยือนประเทศญี่ปุ่นครั้งสุดท้ายในฐานะนักการทูตระดับสูงสุดของสหรัฐฯ ก่อนหมดวาระไปตามรัฐบาลชุดของประธานาธิบดีโจ ไบเดน

บลิงเคน แถลงข่าวหลังพบหารือกับนายกฯของญี่ปุ่น กล่าวชื่นชมข้อตกลงด้านความมั่นคงระหว่างสหรัฐฯ-ญี่ปุ่น และบอกว่า เขามีความมั่นใจว่า สหรัฐฯ และญี่ปุ่นจะเดินหน้าสู่การนำพาสู่ความร่วมมือสำหรับหลายปีข้างหน้าที่จะมาถึง  นายบลิงเคนไม่ขอตอบคำถามหรือแสดงทัศนะเกี่ยวกับเรื่องที่เข้าพบหารือกับนายกฯอิชิบะ

การเดินทางญี่ปุ่นครั้งสุดท้ายของไบเดนมีขึ้นขณะปัญหาในภูมิภาคกรณีเกาหลีเหนือเพิ่งยิงขีปนาวุธ และการตัดสินใจของผู้นำสหรัฐฯเพื่อสกัดการเสนอซื้อกิจการของบริษัท ยูเอส สตีลของบริษัท นิปปอน สตีล ซึ่งภาคธุรกิจทั้งในญี่ปุ่นและสหรัฐฯพยายามผลักดันให้เกิดการซื้อกิจการได้จริง ด้วยการสนับสนุนข้อโต้แย้งของนิปปอน สตีล และ ยูเอส สตีล ที่เตือนว่าเรื่องนี้อาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์สหรัฐฯ-ญี่ปุ่น