6 มกราคม 2021 วันแห่งความน่าอับอายของระบอบประชาธิปไตยของสหรัฐฯ และเป็นวันที่สร้างความ “แตกแยก” ให้สังคมอเมริกามาจวบจนทุกวันนี้
6 มกราคม 2021 หรือ วันนี้เมื่อ 4 ปีก่อน ชาวอเมริกันกว่า 200 ล้านคน ได้รับชมเหตุการณ์จริงที่คล้ายกับภาพยนตร์ เมื่อกลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์นับพันคน บุกกรูเข้าไปในอาคารรัฐสภา หรือ Capitol Hill ในกรุงวอชิงตันดีซี ของสหรัฐฯ เพื่อหวังระงับการประกาศรับรองชัยชนะของโจ ไบเดน ในเวลานั้น – ทำให้บรรดาส.ส. และ ส.ว. ต่างวิ่งหลบหนีไปในห้องนิรภัยกันอย่างชุลมุน – ตำรวจประจำรัฐสภาต้องเข้าระงับเหตุ นำมาสู่ความสูญเสียหลายชีวิต และนายตำรวจ 4 นาย จบชีวิตด้วยการฆ่าตัวตาย – ส่วนรองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ ในเวลานั้น ถูกกลุ่มผู้ประท้วงตะโกนว่า เขาจะต้องถูกแขวนคอ หากให้การรับรองโจ ไบเดน
แม้เวลาจะผ่านมานานร่วม 4 ปีแล้ว แต่นั่นคือเหตุการณ์ที่สร้างความอับอายต่อระบอบประชาธิปไตยของสหรัฐฯ และนั่นคือวันที่ทำให้สหรัฐฯ “แตกแยก” อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน และอาจไม่มีวันหวนกลับไปได้
อีกเพียง 2 สัปดาห์ โดนัลด์ ทรัมป์ ก็จะปรากฎตัวที่ประตูโค้งของอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ เพื่อสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย บ่งชี้ให้เห็นถึงการถ่ายโอนอำนาจที่สันติ ที่กำลังจะเกิดขึ้นในจุดที่เคยเกิดเหตุโกลาหลที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ยุคใหม่ของสหรัฐฯ เมื่อ 4 ปีก่อน ที่มีสาเหตุมาจากคนเดียวกันที่กำลังจะนั่งในทำเนียบขาวนี้เอง
เบื้องหน้าจุดที่ทรัมป์จะทำพิธีสาบานตน เป็นจุดที่ผู้สนับสนุนของเขา เคยโบกสะบัดธง “ทรัมป์” เหนือฝูงชนที่กำลังคลุ้มคลั่ง ตำรวจบางนายถูกฟาดด้วยเสาธงอเมริกัน
วันนี้เมื่อ 4 ปีก่อน ถูกขนานนามว่า คือวันแห่งหายนะของประชาธิปไตยอเมริกา
หลังเหตุจลาจลรัฐสภาจบลง ดูเหมือนอาชีพทางการเมืองที่ไม่แน่นอนของทรัมป์ ก็จะจบลงด้วย .. แต่นั่นคือสิ่งที่หลายคนคิดผิดโดยสิ้นเชิง เพราะทรัมป์ และผู้ภักดีต่อตัวเขา กลับเปลี่ยน “ฝันร้ายทางการเมือง” เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2021 ให้กลายเป็น “ประโยชน์” ทางการเมืองได้อย่างไม่น่าเชื่อ
มีความพยายามที่จะให้ทรัมป์ “รับผิดชอบ” ต่อเหตุจลาจล 6 มกราคม แต่พันธมิตรในสภาคองเกรส และสื่อบางสำนัก กลับโยนความผิดไปที่กลุ่มฝ่ายซ้าย, พรรคเดโมแครต และแม้แต่รัฐบาล – ผู้ก่อเหตุจลาจลที่ใช้ความรุนแรง และถูกดำเนินคดี และถูกจำคุกนับพันคน กลับได้รับการยกย่องจากทรัมป์ และพันธมิตรว่า “เป็นผู้พลีชีพเพื่อชาติ”
รายงานระบุว่า วันดังกล่าว ทรัมป์นั่งดูโทรทัศน์ เห็นภาพความวุ่นวายทั้งหมดอยู่ที่บ้านพัก เขาไม่เพียงแต่เพิกเฉยต่อการบอกให้ม็อบยุติความรุนแรงและถอนกำลังออกมา แต่ทรัมป์ยังเรียกวันจลาจลรัฐสภาว่า “วันแห่งความรัก” หรือ "a day of love" – พร้อมประกาศว่าจะอภัยโทษให้กับผู้ก่อเหตุจลาจลกว่าพันคน ตั้งแต่ชั่วโมงแรกที่เขารับตำแหน่ง – และผู้ที่สนับสนุนเขาในสภาคองเกรส ก็พยายามผลักดันให้มีการฟ้องร้องทางอาญากับผู้ที่ทำการสอบสวนการกระทำของทรัมป์ ในวันที่วุ่นวายนั้น
อย่างไรก็ตาม นี่คือเหตุอาชญากรรมที่มี “ภาพและคลิป” ที่ใช้เป็นหลักฐานที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ กับภาพนิ่งหลายแสนภาพ, วิดีโอหลายหมื่นชั่วโมง, โทรศัพท์ที่ถูกยึดได้หลายพันเครื่อง และมูลค่าความเสียหายทั้งหมดมากกว่า 2,700 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 9 หมื่นล้านบาท
อ้างอิง: https://www.nytimes.com/2025/01/05/us/politics/january-6-capitol-riot-trump.html
https://www.bbc.com/news/world-us-canada-67889403