ทรัมป์ ขู่จะยึดคืนคลองปานามา ที่สหรัฐฯ เคยได้รับสิทธิควบคุมอธิปไตยในอดีต ให้เหตุผลว่าสหรัฐฯ กำลังถูกละเมิดหลักการทั้งทางศีลธรรมและกฎหมายในข้อตกลงที่ให้สิทธิปานามาควบคุม
โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้พูดถึงคลองปานามาว่า เป็น “ทรัพยากรที่สำคัญยิ่งต่อประเทศชาติ” ในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ในงานประจำปี “อเมริกาเฟสต์” (AmericaFest) ที่จัดขึ้นโดยองค์การไม่แสวงผลกำไร “เทิร์นนิง พอยต์ ยูเอสเอ” (Turning Point USA) ในเมืองฟินิกซ์ รัฐแอริโซนา ของสหรัฐฯ เมื่อวานนี้ (22 ธันวาคม) ตามเวลาท้องถิ่น พร้อมกับเรียกร้องให้ปานามาคืนสิทธิ์ในการควบคุมคลองปานามา แก่สหรัฐฯ ซึ่งเคยได้รับอำนาจจากรัฐบาลปานามา ให้สิทธิในการควบคุมอธิปไตยคลองปานามา เมื่อปี 1903 เพื่อสร้างคลองปานามา ก่อนที่สหรัฐฯ จะทำข้อตกลงและสนธิสัญญาคืนสิทธิในการควบคุมคลองปานามาแก่รัฐบาลปานามาในปี 1977 สมัยที่ประธานาธิบดี จิมมี คาร์เตอร์ ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ
ทรัมป์ระบุว่า หลักการทางศีลธรรมและกฎหมายภายใต้ข้อตกลงและสัญญาที่สหรัฐฯ คืนสิทธิการควบคุมคลองปานามาแก่รัฐบาลปานามา กำลังถูกละเมิด พร้อมกับระบุว่า สหรัฐฯ จะได้รับผลกระโยชน์หากว่าคลองปานามา ไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมและค่าผ่านทางที่แพงเกินไปจากเรือขนสินค้า รวมถึงเรือจากกองทัพของสหรัฐฯ
ด้านประธานาธิบดีโฮเซ มูลิโน ของปานามา ก็ออกมาตอบโต้เรื่องนี้ทันที โดยระบุว่า อธิปไตยและเอกราชของดินแดนในประเทศเราไม่สามารถต่อรองได้ พร้อมกับอ้างถึง สนธิสัญญาปี 1977 ที่ทั้งสหรัฐฯ และปานามา ต่างก็ยอมรับเรื่องที่ให้ปานามาได้รับสิทธิควบคุมอธิปไตยคลองปานามา
ผู้นำปานามา ระบุว่า ปานามาเคารพอธิปไตยของประเทศอื่น ๆ และก็หวังว่าปานามาจะได้รับสิ่งเดียวกันนี้จากรัฐบาลชุดใหม่ของสหรัฐฯ เช่นกัน พร้อมกับคาดหวังว่าจะยังรักษาความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันไว้ นอกจากนี้เขายังต้องการให้ว่าที่ผู้นำสหรัฐฯ ให้ความสำคัญกับเรื่องความร่วมมืออื่น ๆ อาทิ ปัญหาการอพยพผิดกฎหมาย ปัญหาการค้ายาเสพติด และปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ ที่ควรยกให้เป็นวาระสำคัญในความร่วมมือทวิภาคี เนื่องจากถือเป็นภัยคุกคามและสิ่งที่ควรกังวลร่วมกันอย่างแท้จริง
นอกจากนี้ ในเวทีที่งาน “อเมริกาเฟสต์” ทรัมป์ ยังได้พูดถึงนโยบายและแผนสำคัญอื่น ๆ ที่เขาเตรียมจะดำเนินการหลังจากที่เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ หนึ่งในนั้นก็คือ เรื่องที่เขาจะไปหารือกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ตั้งแต่ช่วงแรก ๆ ที่เข้ารับตำแหน่ง เพื่อยุติปัญหาความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งก่อนหน้านี้ ปูติน ก็ออกมาแสดงท่าทีว่าพร้อมแล้วที่จะหารือเรื่องนี้ร่วมกับทรัมป์
นอกจากนี้ยังมีเรื่องที่ ทรัมป์ แสดงความเห็นว่าเขาอาจจะเปิดโอกาสให้ แอปพลิเคชัน “ติ๊กต็อก” (Tiktok) จากจีน ดำเนินธุรกิจต่อในสหรัฐฯ ได้อีกด้วย โดยระบุว่า แอปฯ นี้กลายเป็นหนึ่งในแอปฯ ที่เขาชื่นชอบ แม้ว่าก่อนหน้านี้เขาจะเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนให้แบนก็ตาม
ทรัมป์ ระบุว่า แอปฯ ติ๊กต็อกมีบทบาทสำคัญในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ครั้งล่าสุด และช่วยให้เขาได้รับชัยชนะ เนื่องจากมันทำให้เขาได้รับคะแนนเสียงจากวัยรุ่นชาวอเมริกันจำนวนมาก
ขณะที่ศาลสูงสุดสหรัฐฯ ก็ออกมาประกาศเร่งพิจารณาเกี่ยวกับคดีการแบนแอปฯ ติ๊กต็อก ก่อนหน้าที่ทรัมป์จะเข้ารับตำแหน่ง โดยมีกำหนดการไต่สวนและฟังข้อโต้แย้งในวันที่ 10 มกราคมนี้