TNN ‘ประธานาธิบดีซีเรีย ผู้ทำลายและสูญเสียประเทศของตัวเอง’

TNN

World

‘ประธานาธิบดีซีเรีย ผู้ทำลายและสูญเสียประเทศของตัวเอง’

‘ประธานาธิบดีซีเรีย ผู้ทำลายและสูญเสียประเทศของตัวเอง’

บาชาร์ อัล-อัสซาด ประธานาธิบดีผู้ปกครองซีเรียมานานกว่า 24 ปี ครั้งหนึ่งเขาเคยถูกคาดหวังว่าจะเป็นนักปฏิรูปที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงในซีเรีย แต่ชาวซีเรียมองว่าเขาเป็นผู้นำที่ทำลายประเทศและทรมานคนในชาติ ที่ปกครองประเทศท่ามกลางซากปรักหักพัง ซึ่งท้ายที่สุดเขาก็ไม่เหลืออะไร ไม่เหลืออำนาจ และไม่มีประเทศให้อยู่

◾️◾️◾️

🔴 บาชาร์ อัล-อัสซาด เป็นใคร มาจากไหน


บาชาร์ อัล-อัสซาด เกิดเมื่อวันที่ 11 กันยายน 1965 ในกรุงดามัสกัส ประเทศซีเรีย เขาเป็นลูกชายคนที่สองของ ฮาฟิซ อัล-อัสซาด ซึ่งพ่อของเขาเป็นหนึ่งในผู้ร่วมคณะรัฐประหาร และได้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีซีเรียตั้งแต่ปี 1971 ซึ่งเขาปกครองซีเรียด้วยความเด็ดขาด ปราบปรามฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองอย่างเหี้ยมโหด ในช่วงนั้นซีเรียได้ชื่อว่าเป็นรัฐตำรวจที่มีการจับกุม กักขัง และทรมานผู้เห็นต่างจากรัฐบาลอย่างไร้ความปราณี


ในตอนแรก บาชาร์ อัล-อัสซาด ไม่ได้ถูกวางตัวให้รับตำแหน่งผู้นำประเทศต่อจากบิดา แต่เป็นบาซิล อัล-อัสซาด พี่ชายของเขาที่ถูกเตรียมความพร้อมให้เป็นประธานาธิบดีคนต่อไปของซีเรีย แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เมื่อพี่ชายของเขาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เสียชีวิตในปี 1994 ทำให้บาชาร์ต้องกลายมาเป็นผู้สืบทอดอำนาจต่อจากบิดา แม้ว่าเขาจะไม่มีความพร้อมในเรื่องการบริหารประเทศเลย


บาชาร์สำเร็จการศึกษาจากอังกฤษ เพื่อเป็นจักษุแพทย์ เขามีความสนใจในเรื่องคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต แต่ไม่เคยมีความสนใจในเรื่องการบริหารประเทศเลย เมื่อพี่ชายเขาเสียชีวิต เขาจึงต้องเตรียมความพร้อมสู่การเป็นประธานาธิบดีคนใหม่ของซีเรียอย่างไม่ทันตั้งตัว ด้วยการเข้าเรียนหลักสูตรเร่งรัดด้านการทหาร จนกระทั่งบิดาของเขาเสียชีวิตในปี 2000 ขณะนั้นเขามีอายุแค่ 34 ปี ทำให้ต้องมีการแก้ไขกฎหมายในซีเรีย ลดอายุของผู้ที่จะมาเป็นประธานาธิบดี จากเดิมที่ต้องมีอายุมากกว่า 40 ปี ลงมาเหลือ 34 ปี เพื่อเปิดทางให้บาชาร์ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีได้


◾️◾️◾️

🔴 จากความหวังนักปฏิรูป สู่ผู้ปราบปรามอย่างโหดเหี้ยม


สำนักข่าวอัลจาซีรารายงานว่า ในตอนแรกเขาถูกตั้งความหวังว่าเป็นนักปฏิรูปที่จะนำความเปลี่ยนแปลงมาสู่ซีเรียในทางที่ดีขึ้น หลังจากที่พ่อของเขาปกครองซีเรียด้วยความเหี้ยมโหดนานเกือบ 30 ปี แต่นอกจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายด้านเศรษฐกิจไม่กี่อย่าง เขากลับใช้อำนาจเผด็จการไม่ต่างจากบิดา หรืออาจจะโหดเหี้ยมกว่าด้วยซ้ำ เมื่อชาวซีเรียลุกฮือเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยในเดือนมีนาคม 2011 เขากลับเรียกกลุ่มผู้ประท้วงว่าเป็นผู้ก่อการร้าย และสั่งปราบปรามอย่างโหดเหี้ยม เขาสั่งให้ใช้อาวุธที่มีอำนาจทำลายล้างรุนแรงและอาวุธเคมีกับฝ่ายต่อต้าน จนทำให้ซีเรียที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นประเทศที่สวยงาม ตกอยู่ในการสู้รบของสงครามกลางเมืองที่ยืดเยื้อมาตั้งแต่ปี 2011 กลายเป็นประเทศที่มีแต่ซากปรักหักพัง และไม่มีอนาคตสำหรับประชาชน 


องค์กรสังเกตการณ์เพื่อสิทธิมนุษยชนซีเรีย (SOHR) เปิดเผยข้อมูลว่า ผลกระทบของสงครามกลางเมืองที่ยืดเยื้อนานหลายปี ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 300,000 ราย มีผู้ได้รับบาดเจ็บและพิการอีกกว่า 2 ล้านคน


แม้จะถูกนานาชาติประณามเรื่องการใช้ความรุนแรงและการละเมิดสิทธิมนุษยชน แต่รัฐบาลของบาชาร์ อัล-อัสซาด ก็อยู่ได้ด้วยการสนับสนุนจากรัสเซียและอิหร่านที่เป็นพันธมิตรหลัก ทำให้เขาไม่สนใจที่จะปฏิบัติตามขั้นตอนของสหประชาชาติในการเปลี่ยนผ่านซีเรียสู่การเป็นประเทศประชาธิปไตย โดยที่เขาอ้างว่าตัวเองเป็นผู้ปกป้องซีเรียจากพวกกลุ่มก่อการร้ายที่มีแนวคิดหัวรุนแรงสุดโต่ง และเขาเป็นผู้เดียวที่จะฟื้นฟูซีเรียได้จากความเสียหายของสงครามที่เกิดขึ้น


แต่ในที่สุด ยุคสมัยของบาชาร์ อัล-อัสซาด ที่ปกครองซีเรียก็จบสิ้นลงเมื่อเขาถูกกองกำลังฝ่ายต่อต้านโจมตีสายฟ้าแลบจากเมืองทางตอนเหนือ ลงมาที่กรุงดามัสกัส จนทำให้เขาสูญเสียอำนาจและต้องหลบหนีออกนอกประเทศในฐานะผู้ลี้ภัยไปที่รัสเซีย ถือว่าเป็นจุดจบของซีเรียที่อยู่ภายใต้การปกครองแบบเผด็จการของตระกูล อัล-อัสซาด ที่นานกว่า 53 ปี


◾️◾️◾️

🔴 อัล-อัสซาดในสายตาประชาชน


ในสายตาของชาวซีเรีย บาชาร์ อัล-อัสซาดเป็นผู้นำเผด็จการที่ทำลายประเทศของตัวเอง โดย มาร์วาน คาบาลาน นักวิเคราะห์การเมืองในซีเรีย กล่าวว่า “สำหรับชาวซีเรีย อัล-อัสซาด จะถูกจดจำเสมอในฐานะประธานาธิบดีที่ไร้ความเป็นผู้นำ ทำลายประเทศของตัวเอง และทำให้ประชาชนต้องพลัดถิ่น โดยในตอนนี้ เขาไม่ได้แค่สูญเสียอำนาจเท่านั้น แต่เขาต้องสูญเสียประเทศบ้านเกิดของตัวเองด้วย”


แม้ว่าในตอนนี้จะยังไม่แน่นอนว่าอนาคตของซีเรียจะเป็นอย่างไรต่อไป เพราะประเทศตกอยู่ในวังวนของสงครามกลางเมืองมานานกว่า 13 ปี แต่ประชาชนก็มีความหวังว่าประเทศจะดีขึ้นหลังจากที่สิ้นสุดยุคการปกครองของครอบครัวอัล-อัสซาด

————

เรียบเรียง: ชาญชัย ประทีปวัฒนะวงศ์

ภาพ: Reuters

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง