รัสเซียเนรเทศเจ้าหน้าที่ทูตอังกฤษคนหนึ่งในข้อหากระทำความผิดฐานเป็นสายลับ ซึ่งถือเป็นความขัดแย้งล่าสุดต่อสถานะความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศที่ย่ำแย่อยู่ก่อนแล้ว
เมื่อวานนี้ (26 พฤศจิกายน) สำนักงานความมั่นคงรัฐบาลกลางรัสเซีย เอฟเอสบี (FSB) ซึ่งเป็นหน่วยข่าวกรอง แถลงว่า เจ้าหน้าที่ทูตคนดังกล่าว ซึ่งมีรูปถ่ายปรากฏตามรายการข่าวทางโทรทัศน์ ได้ให้ข้อมูลเท็จโดยเจตนาเมื่อเดินทางเข้าประเทศ โดยระหว่างการทำงานต่อต้านข่าวกรอง หน่วยข่าวกรองของรัฐบาลกลางรัสเซียได้ค้นพบหน่วยข่าวกรองของอังกฤษที่ไม่ได้เปิดเผย ซ่อนตัวอยู่ในสถานทูตอังกฤษในกรุงมอสโก ในเวลาเดียวกัน เอฟเอสบีก็ได้ค้นพบสัญญาณว่านักการทูตคนดังกล่าวดำเนินการข่าวกรองและทำงานล้มล้าง ซึ่งเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของสหพันธรัฐรัสเซีย
เอฟเอสบี ระบุชื่อเขาว่า "เอ็ดเวิร์ด วิลค์ส" และว่า เขาเป็นเลขานุการโท (second secretary) ซึ่งเป็นยศชั้นผู้น้อยทางการทูต ตามรายงานของเอฟเอสบี นักการทูตอังกฤษคนนี้เข้ามาแทนที่นักการทูตอังกฤษคนหนึ่งจากหกคนที่ถูกขับออกนอกประเทศเมื่อต้นปีนี้ เนื่องจากถูกกล่าวหาว่าเป็นสายลับเช่นกัน โดยกระทรวงต่างประเทศรัสเซียได้เรียกนายไนเจล เคซีย์ เอกอัครราชทูตอังกฤษเข้าพบ ซึ่งรัฐบาลเจ้าบ้านมักใช้มาตรการนี้เพื่อแสดงการประท้วงอย่างรุนแรง
ทั้งนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างอังกฤษและรัสเซีย ดิ่งลงต่ำสุดหลังสงครามเย็น ตั้งแต่เริ่มต้นสงครามในยูเครน โดยอังกฤษได้เข้าร่วมใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซียต่อเนื่องและจัดหาอาวุธให้ยูเครนด้วย ซึ่งล่าสุด รัสเซียระบุว่า ยูเครนยิงขีปนาวุธร่อนสตอร์ม ชาโดว์ ของอังกฤษ โจมตีดินแดนรัสเซียเป็นครั้งแรกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รวมทั้งการใช้ขีปนาวุธเชิงยุทธวิธีกองทัพบก ATACMS ของสหรัฐฯ โจมตีรัสเซีย ซึ่งประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย อ้างเป็นเหตุผลในการตอบโต้ด้วยการยิงขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง ถล่มเมืองดนิโปรของยูเครนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว