ญี่ปุ่นเล็งใช้รถแทรมของจีนสำหรับขึ้นภูเขาไฟฟูจิ

ทางการท้องถิ่นของญี่ปุ่นเปิดเผยเมื่อวานนี้ (18 พฤศจิกายน) ว่าอาจชะลอแผนการสร้างรถไฟสำหรับเดินทางขึ้นภูเขาไฟฟูจิที่ได้ประกาศแผนการก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2021 และกำลังพิจารณาโครงการ “ฟูจิแทรม” ที่จะใช้รถแทรมและรถบัสพลังไฮโดรเจนของบริษัท CRRC ผู้ผลิตภายใต้รัฐบาลจีนมาใช้สำหรับการท่องเที่ยวภูเขาไฟฟูจิแทน

สำหรับระบบรถแทรมของจีนดังกล่าวเรียกว่า The Chinese Autonomous Rail Rapid Transit (ART) เป็นระบบขนส่งที่จะมีความแตกต่างกับระบบรถแทรมของฝั่งตะวันตก คือจะมีความคล้ายกับรถบัสมากกว่า โดยรถแทรมจากบริษัทจีนส่วนมากจะสร้างขึ้นมาให้สามารถวิ่งได้ด้วยล้อยางและวิ่งบนถนนแทนที่จะวิ่งบนรางโคทาโร นางาซากิ นายกเทศมนตรีของจังหวัดยามานาชิ เผยว่าการใช้ฟูจิแทรมจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างอย่างมีนัยยะสำคัญ และการใช้รถแทรมจะช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมความหนาแน่นของนักท่องเที่ยวได้ง่ายมากขึ้น ขณะเดียวกันรถแทรมยังลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่ารถไฟ นอกจากนี้นายกเทศมนตรีจังหวัดยามานาชิกล่าวด้วยว่าเขาหวังให้ฐานการผลิตตัวรถแทรมนี้มาตั้งที่จังหวัดยามานาชิซึ่งเป็นจังหวัดที่ตั้งของภูเขาไฟฟูจิด้วย

ทางการท้องถิ่นเผยว่ารถแทรมดังกล่าวจะสามารถเชื่อมโยงภูเขาไฟฟูจิกับสถานีรถต่าง ๆ ในจังหวัดยามานาชิได้และคาดว่าจะสามารถเปิดระบบสำรวจเส้นทางทั้งหมดผ่านออนไลน์ได้เร็วที่สุดภายในปี 2034 อย่างไรก็ตามญี่ปุ่นคาดว่าค่าใช้จ่ายของการก่อสร้างรถแทรมจะอยู่ที่ประมาณ 140 ล้านเยน ขณะที่รายงานจากทางการท้องถิ่นเมื่อเดือนที่แล้วเผยว่าการก่อสร้างอาจต้องเผชิญอุปสรรคด้านเทคนิครวมไปถึงการก่อสร้างจะมีความท้าทายเนื่องจากจะต้องดำเนินงานท่ามกลางภูมิประเทศที่หนาวเย็นบนภูเขาไฟฟูจิ

จำนวนนักท่องเที่ยวบนภูเขาไฟฟูจิเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากในไม่กี่ช่วงปีที่ผ่านมา และทางการญี่ปุ่นก็มีความพยายามเพื่อลดผลกระทบต่อด้านสิ่งแวดล้อมที่เป็นปัญหาเพราะนักท่องเที่ยวล้น โดยยอดนักท่องเที่ยวในปีที่แล้วมีมากถึง 200,000 คน ในขณะที่เมื่อช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมาจำนวนนักท่องเที่ยวลดลงเล็กน้อยเหลือ 178,000 คน แต่ญี่ปุ่นคาดว่าภายในปี 2030 จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาภูเขาไฟฟูจิทะลุ 60 ล้านคนซึ่งมากกว่ายอดนักท่องเที่ยวทั้งปี 2019 เป็นสองเท่าเลยทีเดียว