สงครามยูเครนจะเป็นอย่างไรต่อ ? หากยูเครนใช้ขีปนาวุธสหรัฐฯ โจมตีรัสเซีย

สื่อต่างชาติวิเคราะห์ว่าถ้าหากยูเครนได้รับอนุญาตให้ใช้ขีปนาวุธ ATACMS โจมตีเข้าไปในดินแดนรัสเซียได้ คาดว่ายูเครนจะมุ่งเป้าโจมตีไปที่เป้าหมายด้านการทหารของรัสเซีย เช่น สนามบิน โรงเก็บอาวุธ และฐานทัพต่างๆ แต่ก็คาดว่าคงไม่ได้สร้างความเสียหายอะไรให้รัสเซียมากมายนัก เพราะระยะการโจมตีของขีปนาวุธ ATACMs ที่ไกล 300 กิโลเมตร ก็ถือว่ายังข้ามพรมแดนรัสเซียเข้ามาได้ไม่ไกลมากเท่าไร และรัสเซียก็ได้ขนย้ายอาวุธที่สำคัญอย่างเครื่องบินรบ มาเก็บไว้ในที่ปลอดภัยที่อยู่ห่างจากพรมแดนมากขึ้นกว่าเดิม 

นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ด้านการทหารคาดว่า ยูเครนไม่ได้รับขีปนาวุธ ATACMS จากสหรัฐฯ เป็นจำนวนที่มากพอที่จะสร้างความเสียหายให้รัสเซีย ซึ่งทางกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เคยออกมายอมรับว่าทางสหรัฐฯ เองก็มีขีปนาวุธ ATACMS แค่ไม่กี่ลูกที่จะมอบให้กับยูเครน ดังนั้นแล้ว เรื่องนี้ไม่น่าจะส่งผลกระทบอะไรต่อทิศทางของสงครามมากนัก แต่น่าจะเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์มากกกว่า ว่าสหรัฐฯ จะยังคงเดินหน้าสนับสนุนยูเครนให้ต่อต้านรัสเซียต่อไป

เอียน เคลลี อดีตทูตสหรัฐฯ ในจอร์เจีย ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ว่าการที่สหรัฐฯ ไฟเขียวให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธ ATACMS ได้ นอกจากจะเป็นการแสดงว่าสหรัฐฯ ยังคงสนับสนุนยูเครนอยู่ต่อไป ยังจะทำให้ยูเครนมีข้อต่อรองที่ดีขึ้นเพื่อไปใช้เจรจายุติสงครามกับรัสเซีย ซึ่งในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า สงครามยูเครนจะดำเนินมาครบสามปี และคาดว่า โดนัลด์ ทรัมป์ จะดำเนินการเจรจาให้ทั้งยูเครนและรัสเซียยุติสงคราม ซึ่งทางยูเครนเองต้องมีจุดยืนทางการทหารเพื่อเอาไปใช้ต่อรองกับรัสเซีย ถ้าสหรัฐฯ ไม่แสดงออกอย่างหนักแน่นว่ายังสนับสนุนยูเครนอยู่ ก็จะทำให้ยูเครนเป็นฝ่ายเสียเปรียบในการเจรจา

แต่ถ้ายูเครนใช้ขีปนาวุธ ATACMS ของสหรัฐฯ โจมตีเข้าไปในดินแดนของรัสเซีย หลายฝ่ายก็กังวลว่าอาจจะทำให้การสู้รบยกระดับรุนแรงกว่าเดิม เพราะทางรัสเซียเคยออกมาเตือนหลายครั้งว่า หากขีปนาวุธของสหรัฐฯ ถูกใช้ในการโจมตีแผ่นดินของรัสเซีย ก็จะถือว่าสหรัฐฯ เข้าร่วมในสงครามนี้โดยตรง แต่ก่อนหน้านี้ รัสเซียก็เคยเตือนว่าหากนาโตมอบรถถังและเครื่องบินรบให้ยูเครน ก็จะถือว่าเป็นการล้ำเส้นที่รัสเซียได้ขีดเอาไว้ ซึ่งเมื่อนาโตมอบรถถังและเครื่องบินรบให้ยูเครน รัสเซียก็ไม่ได้ทำอะไร

อย่างไรก็ตาม สำนักข่าว TASS ของทางการรัสเซีย รายงานว่า วลาดิเมียร์ ซาบารอฟ รองประธานคณะกรรมาธิการฝ่ายกิจการต่างประเทศของสภาสูงรัสเซีย ประกาศว่า รัสเซียจะตอบโต้ทันที หากยูเครนโจมตีเข้ามาในดินแดนรัสเซียด้วยขีปนาวุธสหรัฐฯ ซึ่งเขาบอกว่า “นี่ถือเป็นก้าวสำคัญมากในการเปิดฉากสงครามโลกครั้งที่สาม”

นอกจากนี้ ลีโอนิด สลุตสกี ประธานคณะกรรมาธิการฝ่ายกิจการต่างประเทศของสภาล่างรัสเซีย กล่าวว่า รัสเซียจะตอบโต้อย่างรุนแรงที่สุด หากรัสเซียถูกยูเครนโจมตีด้วยขีปนาวุธ ATACMS ซึ่งจะทำให้สถานการณ์ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ แต่ว่าวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีของรัสเซีย ยังไม่ได้แสดงคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้