นับถอยหลังสู่เลือกตั้งผู้นำสหรัฐฯ คะแนนทรัมป์-แฮร์ริสยังสูสี
เหลืออีกเพียงหนึ่งวันก็จะถึงวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อังคารที่ 5 พฤศจิกายน (ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐฯ) ขณะที่โพลล์ต่างชี้ว่า “โดนัลด์ ทรัมป์” และ “คามาลา แฮร์ริส” ซึ่งทั้งคู่กำลังหาเสียงวันสุดท้ายในรัฐสมรภูมิ ยังมีคะเเนนนิยมที่คู่คี่สูสีกันมากเป็นประวัติการณ์ จนไม่แน่ใจว่าใครจะชนะใน 7 รัฐสมรภูมิ
รองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ จากพรรคเดโมแครต และคู่แข่งจากพรรครีพับลิกัน อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ หาเสียงเต็มวันในวันสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งในวันอังคารที่ 5 พฤศจิกายนตามเวลาในสหรัฐฯ ซึ่งอาจจะเป็นการชนะกันอย่างเฉียดฉิว เนื่องจากคะแนนนิยมของทั้งคู่ยังสูสีกันมาก โดยแฮร์ริส จะใช้เวลาหาเสียงวันสุดท้ายเต็มวันในรัฐเพนซิลเวเนีย โดยจะจัดการหาเสียงทั้งหมด 5 เวที เริ่มต้นในเมืองสแครนตัน ขณะเดียวกัน ทรัมป์ จะหาเสียงใน 3 รัฐ เริ่มต้นในรัฐนอร์ทแคโรไลนา จากนั้นจะเดินทางต่อไปยังรัฐเพนซิลเวเนีย และปิดท้ายการหาเสียงชิงทำเนียบขาว ปี 2567 ในรัฐมิชิแกน
ผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน พบว่า การแข่งขันสูสีกันมาเป็นประวัติการณ์ และทีมรณรงค์หาเสียงของทั้งคู่ กล่าวว่า พวกเขาต่างไม่แน่ใจว่า ใครจะได้รับชัยชนะใน 7 รัฐสมรภูมิ หรือรัฐสวิงสเตท ซึ่งอาจจะชี้ขาดผลเลือกตั้งในวันอังคารนี้ โดยผลโพล พบว่า แฮร์ริส มีคะแนนนำในรัฐไอโอวา ซึ่งเป็นรัฐที่ทรัมป์เคยชนะอย่างง่ายดายในการเลือกตั้งสองครั้งที่ผ่านมา ทำให้เกิดความเป็นไปได้ของผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิด แม้ว่าผลสำรวจของอีกโพลหนึ่งจะแสดงให้เห็นว่า เธอตามหลังในรัฐนี้ก็ตาม
ในการหาเสียงวันสุดท้าย แฮร์ริสพยายามโน้มน้าวให้ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้ง หรือ voter เชื่อว่า เธอจะช่วยลดค่าครองชีพ ซึ่งถือเป็นปัญหาที่สำคัญที่สุด หลังสหรัฐฯเผชิญปัญหาเงินเฟ้อติดต่อกันมาหลายปี นอกจากนี้ เธอยังพาดพิงถึงทรัมป์ว่า เป็นคนอันตรายและเอาแน่เอานอนไม่ได้ และเรียกร้องให้ชาวอเมริกันเลิกใช้แนวทางที่สร้างความแตกแยกทางการเมืองของทรัมป์
ส่วนทรัมป์ กล่าวแย้งว่า แฮร์ริส ในฐานะรองประธานาธิบดี ต้องรับผิดชอบต่อราคาสินค้าที่กำลังเพิ่มสูงขึ้น และผู้อพยพเข้าเมืองที่เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งเขาระบุว่า เป็นภัยคุกคามต่อการดำรงอยู่ของประเทศ
ชาวอเมริกันอย่างน้อย 75 ล้านคน หรือกว่าร้อยละ 50 ออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้าแล้ว คิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 160 ล้านคนในปี 2563 อย่างไรก็ตาม อาจจะต้องใช้เวลาหลายวันกว่าจะทราบว่าใครจะเป็นผู้ชนะอย่างเป็นทางการ เนื่องจากรัฐต่าง ๆ เช่น เพนซิลเวเนีย จะต้องใช้เวลาในการรวมคะแนนเสียงทางไปรษณีย์ด้วย
ข่าวแนะนำ