ญี่ปุ่นเผยมีคนตกเป็นเหยื่อ "ชักโครกอัจฉริยะ" หลายรายในช่วง 10 ปี

“ชักโครกอัจฉริยะ” หนึ่งในนวัตกรรมที่เป็นสัญลักษณ์ของความล้ำสมัยในเทคโนโลยีของญี่ปุ่น แต่ตอนนี้มันได้กลายเป็นสิ่งอันตรายไปแล้ว เมื่อสถาบันเทคโนโลยีและการประเมินผลแห่งญี่ปุ่น (NITE) ออกมาเปิดเผยว่าในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาเกิดอุบัติเหตุจาก “ชักโครกอัจฉริยะ” มากถึง 69 ครั้ง โดยเฉพาะบาดแผลรอยไม้บริเวณก้นหลังจากนั่งลงไปที่ชักโครกอัจฉริยะนี้ที่ดันเกิดความร้อนแผ่ขึ้นมาบริเวณแผ่นนั่ง ในขณะที่ผู้ใช้งานบางคนถูกน้ำร้อนจากโถชักโครกลวกผิวเพราะระบบชักโครกทำงานผิดพลาด นอกจากนี้ผู้ใช้งานบางคนยังต้องเผชิญกับเหตุควันขโมงหลังจากแผ่นพลาสติกของชักโครกเกิดความร้อนด้วย 

ด้าน NITE ออกมาเผยว่า อุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชนิดล้วนแต่มีอายุการใช้งาน แทนที่จะทนใช้อุปกรณ์ที่พังควรหันไปเปลี่ยนเป็นอุปกรณ์อันใหม่ที่จะทำให้การใช้ห้องน้ําของทุกคนไม่เกิดปัญหาอีก NITE แนะนำด้วยว่าอุปกรณ์ที่พบว่ามันพังแล้วหรือสังเกตได้ถึงความผิดปกติควรจดบันทึกความผิดปกตินั้นไว้และตระหนักที่จะตรวจสอบก่อนใช้งานทุกครั้ง ในกรณีแย่ที่สุดอุปกรณ์ไฟฟ้าที่พังแล้วและไม่ได้รับการเปลี่ยนหรือตรวจสภาพอาจทำให้เกิดการติดไฟได้ในที่สุด

อย่างไรก็ตาม NITE เป็นกังวลเกี่ยวกับอุปกรณ์ชักโครกอัจฉริยะในรุ่นเก่าและก็พบว่าจำนวนผู้ใช้งานที่ไม่ยอมเปลี่ยนชักโครกอัจฉริยะอันใหม่ก็เพิ่มสูงขึ้นแม้ว่าจะใช้งานมาหลายปีแล้วก็ตาม ซึ่งหากอ้างอิงจากรายงานอุบัติเหตุทั้ง 69 ครั้งที่เกิดขึ้นเพราะชักโครกอัจฉริยะมีความร้อนสูงจะพบว่า 80 เปอร์เซ็นต์เป็นอุปกรณ์ที่ใช้งานมากแล้วเกิน 10  ปี ขณะที่บางอุบัติเหตุก็เกิดขึ้นเพราะการใช้น้ำยาล้างชักโครกอัจฉริยะที่ผิดประเภทจนนำมาสู่ความขัดข้อง

ชักโครกอัจฉริยะเริ่มเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในญี่ปุ่นตั้งแต่ปี 2016 เป็นต้นมา โดยบ้านเรือนประชาชนรวมไปถึงห้างร้าน อาคารเกือบทุกแห่งจะมีชักโครกอัจฉริยะติดตั้งอยู่ทั้งสิ้น ซึ่งไม่กี่ปีที่ผ่านมาชักโครกอัจฉริยะถูกพัฒนาให้พวกมันฉลาดมากขึ้นทั้งการเปิดฝาได้เองเมื่อมีคนมาเข้าห้องน้ำหรือแม้แต่มีระบบเสียงเพื่อความผ่อนคลายที่ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า “โอโตะ ฮิเมะ” หรือหมายถึง “เสียงเจ้าหญิง” (sound princess) ที่จะช่วยกลบเสียงไม่พึงประสงค์ระหว่างใช้ห้องน้ำได้ นอกจากนี้ ชักโครกอัจฉริยะรุ่นใหม่ ๆ ยังสามารถปรับความแรง ทิศทาง และ อุณหภูมิของน้ำที่จะใช้หลังทำธุระเสร็จได้อีกด้วย