แพะรับบาปคดีฆาตกรรมที่ญี่ปุ่นถูกตัดสิน "พ้นผิด" แล้ว
ศาลญี่ปุ่นกลับคำตัดสินนักโทษประหารชีวิตให้ “พ้นโทษ” หลังจากมีหลักฐานชี้ว่าเขาคือ “แพะรับบาป” แต่กลับต้องติดคุกนานหลายสิบปี
วันนี้ (26 กันยายน) ศาลญี่ปุ่นได้ตัดสินให้ “อิวาโอะ ฮากามาดะ” ชายชาวญี่ปุ่นอายุ 88 ปี “พ้นโทษ” หลังจากเขากลายเป็น “แพะรับบาป” ในคดีฆาตกรรมครอบครัวเจ้านายของเขาเมื่อปี 1966 และถูกตัดสินให้ต้องโทษ “ประหารชีวิต” ในปี 1968 ทำให้นายฮากามาดะต้องอยู่ในเรือนจำเพื่อรอการประหารชีวิตนานถึง 46 ปี ซึ่งมีรายงานว่าการที่เขาต้องติดคุกเป็นเวลานาน โดยที่ไม่ได้กระทำความผิด ทำให้สภาพจิตใจของเขาย่ำแย่และไม่ปกติจนศาลญี่ปุ่นได้กลับมาพิจารณาหลักฐานอีกครั้งและสามารถยืนยันความบริสุทธิ์ของฮากามาดะได้ จึงตัดสินให้เขาพ้นผิดเนื่องจากหลักฐานที่เคยเอาผิดเขาก่อนหน้านี้เป็นหลักฐานที่ถูกกุขึ้นทั้งหมด แต่การติดคุกโดยไม่มีความผิดของเขาก็ทำให้เขากลายเป็นนักโทษประหารชีวิตที่รับโทษนานที่สุดในโลก ซึ่งกว่าครึ่งศตวรรษที่เขาต้องใช้เวลาอยู่ในเรือนจำได้ทําลายสุขภาพจิตของฮากามาดะอย่างหนัก จนน่าเสียดายที่ในวันนี้เขาไม่สามารถเดินทางมาร่วมฟังคำตัดสินที่ศาลในจังหวัดชิซูโอกะที่จะให้ความยุติธรรมกับเขาได้
สำหรับคดีของฮากามาดะถือเป็นหนึ่งในมหากาพย์การต่อสู้ทางกฎหมายที่โด่งดังที่สุดของญี่ปุ่นและได้รับความสนใจจากสาธารณชนอย่างกว้างขวาง ซึ่งทันทีที่ศาลพิพากษาให้เขาพ้นโทษ กองเชียร์นับ 500 คนที่มารอลุ้นผลการตัดสินต่างส่งเสียงเป็นภาษาญี่ปุ่นว่า “บันไซ” หรือหมายถึง “ไชโย” กันอย่างกึกก้องนายฮากามาดะเป็นอดีตนักมวยอาชีพและเคยทำงานที่โรงงานแปรรูปซุปมิโซะ วันที่เกิดเหตุมีการพบศพของครอบครัวหนึ่งประกอบด้วยชาย 1 คน ซึ่งคือหัวหน้าของเขา, ผู้หญิงหนึ่งคนผู้เป็นภรรยาของหัวหน้า, และ ลูก ๆ ของพวกเขา 2 คน ในสภาพที่ถูกแทงและมีการอำพรางศพด้วยการจุดไฟเผา ตำรวจจึงได้ตั้งข้อกล่าวหาฆาตกรรม, ลอบวางเพลิง และขโมยเงินสด 2 แสนเยนกับนายฮากามาดะที่อยู่ในเหตุการณ์ ซึ่งภายหลังเพิ่งมีการเปิดเผยว่านายฮากามาดะถูกบังคับให้ยอมรับผิดในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ทำ โดยเขาถูกตำรวจสอบสวนนานหลายวันและในแต่ละวันก็ใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 12 ชั่วโมง
แต่หลักฐานที่เป็นจุดเปลี่ยนของเรื่องคือ “ชิ้นส่วนเสื้อผ้า” ของนายฮากามาดะที่ถูกนำมาใช้กล่าวหาว่าเขาเป็นฆาตกร แต่เมื่อทนายความของเขาเรียกร้องให้มีการนำไปตรวจ DNA ผลกลับออกมาว่าเลือดบนเสื้อไม่ใช่ของนายฮากามาดะ ซึ่งการพิสูจน์นี้มีน้ำหนักมากพอที่ทำให้ในปี 2014 ศาลญี่ปุ่นยอมปล่อยตัวเขาออกมาชั่วคราวเพื่อรอการรวบรวมหลักฐานจนกระทั่งในวันนี้ก็เป็นที่ประจักษ์แล้วว่าเขาไม่มีความผิดแต่ถูกจับเป็นแพะรับบาปทั้งนี้ การกลับมาพิจารณาคดีซ้ำสําหรับนักโทษประหารชีวิตเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นยากในญี่ปุ่น ในกรณีของนายฮากามาดะถือเป็นเพียงครั้งที่ห้าในประวัติศาสตร์หลังสงครามของญีปุ่น ซึ่งญี่ปุ่นเป็นประเทศ G7 เดียวที่ยังคงกําหนดโทษประหารชีวิต
ข่าวแนะนำ