หลายประเทศประณามเหตุเพจเจอร์ระเบิดที่เลบานอน

จากเหตุโจมตีเครื่องรับส่งข้อความหรือเพจเจอร์ที่กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ใช้ติดต่อสื่อสารกันจนเกิดการระเบิดทั่วเลบานอนและทำให้มีผู้เสียชีวิตที่ขณะนี้เพิ่มขึ้นเป็น 12 คน ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 2 คนที่เสียชีงิต และบาดเจ็บเกือบ 3 พันคน ล่าสุดมีหลายประเทศที่ออกมาประณามเหตุในครั้งนี้ เช่น นาสเซอร์ คานานิ (Nasser Kanaani) โฆษกประจำกระทรวงต่างประเทศของอิหร่านออกมาประณามเหตุครั้งนี้ว่าเป็น “การก่อการร้าย” โดยกลุ่มไซออนิสต์ (Zionist regime) พร้อมทั้งกล่าวว่านี่คือตัวอย่างของการ “สังหารหมู่”ในขณะที่ทางการอิหร่านออกมายืนยันว่านายโมจทาบา อมานิ (Mojtaba Amani) เอกอัครราชทูตอิหร่านประจำเลบานอนหนึ่งในผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุครั้งนี้ ว่าเขาไม่ได้สูญเสียดวงตา 1 ข้างตามที่มีกระแสข่าวออกไปก่อนหน้านี้ นอกจากนี้สภากาชาดของอิหร่านออกมาเผยว่าได้ส่งความช่วยเหลือด้านการรักษาพยาบาลที่ประกอบด้วยแพทย์ 12 คน และ พยาบาล 12 คน ไปยังเลบานอนเพื่อช่วยเหลือในโรงพยาบาลที่กรุงเบรุตที่กำลังชุลมุนจากจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บหลายพันคนจากเหตุโจมตีครั้งนี้

ในขณะที่กระทรวงต่างประเทศของอียิปต์และกระทรวงต่างประเทศของซีเรีย ได้แสดงความเสียใจไปถึงทางการเลบานอนพร้อมประณามการกระทำที่รุนแรงของอิสราเอลที่มีต่อชาวเลบานอน ส่วนทางฝั่งนางเพทรา เดอ ซัตเตอร์ รองนายกรัฐมนตรีของเบลเยียมได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่าน X ว่า “ขอประณามอย่างแรงกล้าถึงเหตุระเบิดที่เลบานอน นี่คือเหตุก่อการร้ายที่รุนแรงจนทำให้ประชาชนนับพันต้องได้รับบาดเจ็บ การหยุดเงียบไม่ใช่ทางเลือกที่ดี แต่จะต้องให้มีการสอบสวนจากนานาชาติ และการนองเลือดจะต้องจบลง” 

ส่วนฝั่ง มาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงต่างประเทศของรัสเซีย โพสต์ข้อความในเทเลแกรมว่าเหตุนี้เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของสงครามลูกผสม โดยเรียกร้องให้จัดการสอบสวนเหตุนี้อย่างจริงจังพร้อมทั้งขอให้นานาชาติให้ความสนใจกับประเด็นนี้ รวมไปถึงรัฐบาลเวเนซุเอลาที่ออกมาประณามการโจมตีทางไซเบอร์ของอิสราเอล นอกจากนี้ทางการเวเนซุเอลายังได้เตือนประชาคมโลกไม่ให้นิ่งเฉยกับการกระทำที่รุนแรง

สำหรับความเคลื่อนไหวจากฝั่งรัฐบาลของเลบานอนได้ออกมาประณามอิสราเอลว่าเป็น “อาชญกร” โดยรัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรมของเลบานอนยังได้โพสต์ข้อความผ่าน X ว่า อิสราเอลได้พิสูจน์ให้มนุษยชาติได้เห็นถึงความโหดร้ายอย่างชัดเจนและชัยชนะของเลบานอนเหนืออิสราเอลก็กำลังใกล้เข้ามาถึงขณะที่ฝั่งฮิซบอลเลาะห์ประกาศจะ “เอาคืน” อิสราเอลและกล่าวว่าอิสราเอลจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบทุกอย่าง โดยฮิซบอลเลาะห์เผยว่าการเอาคืนของพวกเขาจะมีทั้งสิ่งที่อิสราเอลคาดเอาไว้กับสิ่งที่อิสราเอลคาดไม่ถึง 

อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าเมื่อช่วงต้นปีที่แล้วกลุ่มฮิซบอลเลาะห์เริ่มสงสัยว่าอิสราเอลได้ทำการติดตามโทรศัพท์ของพวกเขา จนกระทั่งในเดือนกุมภาพันธ์นักรบของฮิซบอลเลาะห์ถูกสั่งแบนไม่ให้ใช้โทรศัพท์มือถือระหว่างปฏิบัติการทางทหาร ส่วนผู้นำระดับสูงของฮิซบอลเลาะห์ก็หลีกเลี่ยงการใช้โทรศัพท์มือถือระหว่างเข้าประชุม เพราะเกรงว่าอิสราเอลอาจกำลังสอดแนมอยู่จึงเป็นเหตุให้ฮิซบอลเลาะห์หันมาใช้ “เพจเจอร์” เทคโนโลยีเก่าที่ปัจจุบันทั่วโลกแทบจะไม่มีใครใช้มันอีกแล้ว