อิหร่านส่งโดรนข้ามประเทศเปิดฉากถล่มอิสราเอล
สถานการณ์ตะวันออกกลางตึงเครียด อิหร่านส่งโดรนหลายสิบลำ บินผ่านน่านฟ้าอิรักโจมตีอิสราเอล
วันนี้ (14 เม.ย. 67) พลเรือตรีเดเนียล ฮาการี โฆษกกกองกำลังป้องกันตนเองของอิสราเอล หรือ ไอดีเอฟ แถลงผ่านโทรทัศน์ ยืนยันว่า อิหร่านยิงโดรนพิฆาต ขีปนาวุธนำวิถีและขีปนาวุธร่อนมากกว่า 200 ตัวมายังน่านฟ้าอิสราเอล แต่ระบบป้องกันภัยทางอากาศของอิสราเอลและชาติพันธมิตรในภูมิภาคนี้สามารถสกัดโดรนและขีปนาวุธเหล่านั้นได้เป็นส่วนใหญ่ และมีหลายสิบตัวที่ถูกยิงตกนอกอาณาเขตอิสราเอล
ก่อนหน้านี้ไอดีเอฟ แถลงว่า อิหร่านเริ่มใช้โดรนโจมตีอิสราเอล แต่ โดรนเหล่านี้ อาจใช้เวลาหลายชั่วโมงในการเดินทางถึงอิสราเอล ซึ่งอยู่ห่างออกไป 1,800 กิโลเมตร แหล่งข่าวความมั่นคง 2 แห่งในอิรัก ระบุว่า โดรนหลายสิบลำถูกพบเห็นกำลังบินจากอิหร่านผ่านน่านฟ้าอิรัก มุ่งหน้าอิสราเอล ซึ่งเพรส ทีวี ของอิหร่าน เรียกว่า “การโจมตีด้วยโดรนอย่างกว้างขวาง” โดยกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่าน
เสียงไซเรนและการระเบิดดังขึ้นในหลายเมืองของอิสราเอล รวมถึงเทล อาวีฟและเยรูซาเลมในช่วงเวลาที่กองทัพสหรัฐฯ อิสราเอล และจอร์แดน ปฏิบัติหน้าที่ยิงสกัดโรนและขีปนาวุธของอิหร่าน
** ทำไมอิหร่านโจมตีอิสราเอล **
อิหร่านให้คำมั่นว่าจะแก้แค้น การโจมตีของอิสราเอลต่อแผนกกงสุลของตนในกรุงดามัสกัส ประเทศซีเรียเมื่อวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา จนทำให้เจ้าหน้าที่ของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่านเสียชีวิต 7 คน รวมทั้งผู้บัญชาการระดับสูง 2 นาย แต่อิสราเอลไม่ยืนยันหรือปฏิเสธความรับผิดชอบสำหรับการโจมตีดังกล่าว
อิหร่านได้เอ่ยถึงมาตรา 51 ของกฎบัตรสหประชาชาติ เพื่อสร้างความชอบธรรมในการโจมตีอิสราเอล ซึ่งมาตราดังกล่าวอนุญาตให้ประเทศต่างๆมีสิทธิป้องกันตนเองหากถูกโจมตี โดยอิหร่านได้โต้แย้งว่า การที่อิสราเอลโจมตีแผนกกงสุลในสถานทูตอิหร่านที่เมืองหลวงของซีเรียนั้น ถือเป็นการโตจมตีอธิปไตยของอิหร่านโดยตรง
** อิสราเอล - สหรัฐฯจับมือแน่นสกัดการโจมตี ไบเดน-เนทันยาฮูต่อสายหารือด่วน **
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ ลดเวลาในช่วงสุดสัปดาห์ของเขาในรัฐเดลาแวร์ เดินทางกลับทำเนียบขาวเพื่อประชุมกับหน่วยงานความมั่นคง
วันนี้ (14 เม.ย. 67) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า สถานการณ์ในตะวันออกกลางตึงเครียดอีกระลอกหลังจากอิหร่านเปิดฉากใช้โดรน และขีปนาวุธโจมตีอิสราเอล โดยคาดว่าการโจมตีครั้งนี้เป็นการ ตอบโต้เหตุโจมตีสถานกงสุลอิหร่านในซีเรีย
ในขณะที่อิสราเอลและประเทศข้างเคียงประกาศปิดน่านฟ้า เพื่อรับมือกับการโจมตีของอิหร่าน ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ‘โจ ไบเดน’ ได้คาดการณ์และเตือนอิหร่านไม่ให้โจมตีอิสราเอล พร้อมย้ำความมุ่งมั่นที่จะปกป้องอิสราเอล
ก่อนหน้านี้กองกำลังป้องกันอิสราเอล หรือ ไอดีเอฟ แถลงว่าโดรนเหล่านี้ อาจใช้เวลาหลายชั่วโมงในการเดินทางถึงอิสราเอล ซึ่งอยู่ห่างออกไป 1,800 กิโลเมตร โดยทางกองทัพอิสราเอลได้เตรียมการเฝ้าระวังระดับสูง พร้อมกับติดตามตรวจสอบทุกเป้าหมาย พร้อมย้ำการโจมตีครั้งนี้ อาจก่อให้เกิดความรุนแรงครั้งใหม่ระหว่างศัตรูตัวฉกาจในภูมิภาค โดยสหรัฐฯให้คำมั่นสนับสนุนอิสราเอล
แหล่งข่าวความมั่นคง 2 แห่งในอิรัก ระบุว่า โดรนหลายสิบลำถูกพบเห็นกำลังบินจากอิหร่านผ่านน่านฟ้าอิรัก มุ่งหน้าอิสราเอล ซึ่งเพรส ทีวี ของอิหร่านระบุว่าการโจมตีด้วยโดรนครั้งนี้เป็นปฏิบัติการของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่าน
ทั้งนี้อิหร่านให้คำมั่นว่าจะแก้แค้น ในสิ่งที่ตนเรียกว่า การโจมตีของอิสราเอลต่อสถานกงสุลของตนในกรุงดามัสกัส ประเทศซีเรียเมื่อวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติเสียชีวิต 7 คน รวมทั้งผู้บัญชาการระดับสูง 2 นาย แต่อิสราเอลไม่ยืนยันหรือปฏิเสธความรับผิดชอบสำหรับการโจมตีดังกล่าว
ทำเนียบขาว แถลงว่า ไบเดน ซึ่งเตือนอิหร่านอย่าโจมตีอิสราเอลเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังบอกว่า การโจมตีน่าจะเกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้ ได้ให้คำมั่นว่าจะอยู่เคียงข้างอิสราเอลรับมืออิหร่าน
ก่อนการแถลงข่าวเรื่องการโจมตีของอิหร่านไม่นาน นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ผู้นำอิสราเอล กล่าวว่า ‘ระบบป้องกันภัย’ ของอิสราเอล เตรียมพร้อมแล้ว เราพร้อมสำหรับทุกสถานการณ์ ทั้งเชิงรับและเชิงรุก รัฐอิสราเอลแข็งแกร่ง, ไอดีเอฟนั้นแข็งแกร่ง, สาธารณชนก็แข็งแกร่ง” เราชื่นชมสหรัฐฯ ที่ยืนเคียงข้างอิสราเอล เช่นเดียวกับการสนับสนุนของอังกฤษ, ฝรั่งเศส และอีกหลายประเทศ
ภาพจาก: AFP
ข่าวแนะนำ