ชาวอินโดนีเซียแห่ซื้อข้าวราคาถูก หลังราคาข้าวพุ่งสูงจาก ‘เอลนีโญ’

ชาวอินโดนีเซียหลายสิบคนในพื้นที่ชานกรุงจาการ์ตา เมืองหลวงอินโดนีเซีย ยืนต่อแถวกันยาวเหยียดเพื่อซื้อข้าวสารราคาถูกในตลาดที่รัฐบาลให้เงินอุดหนุน หลังจากเกิดภัยแล้งรุนแรงเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งส่งผลกระทบต่อการผลิตและทำให้ราคาสินค้าจำเป็นพุ่งสูงขึ้นทั่วอินโดนีเซีย

 

ในกลุ่มคนที่แย่งซื้อข้าวสารที่ตลาดแห่งหนึ่ง ซึ่งดำเนินการโดย “บูล็อก” หน่วยงานจัดหาอาหารของรัฐ ในเมืองเบกาซี ห่างจากกรุงจาการ์ตาไปทางตะวันออก 25 กิโลเมตร คือ มาซิห์ แม่ค้ามะพร้าววัย 55 ปี ซึ่งเธอกล่าวกับ Reuters ว่า เข้าคิวรอดีกว่า แม้ว่าจะเบียดเสียดกัน เพราะเธออยากได้ข้าวสาร และข้าวสารในตลาดทั่วไปมีราคาแพง ดังนั้นมาซื้อข้าวสารราคาถูกที่นี่ดีกว่า 

ทั้งนี้ ราคาข้าวโลกพุ่งเกือบระดับสูงสุดในรอบ 16 ปี หลังจากอินเดีย ผู้ค้ารายใหญ่สุดของโลก จำกัดการส่งออกข้าวเมื่อปีที่แล้ว

ข้าวถือว่าเป็นอาหารหลักสำหรับประชาชนส่วนใหญ่ในอินโดนีเซีย ซึ่งมีประชากร 270 ล้านคน และราคาข้าวสูงขึ้นกว่า 16% ตั้งแต่ปีที่แล้ว เนื่องจากปรากฏการณ์เอลนีโญ ทำให้ฝนตกน้อยลงทั่วพื้นที่ส่วนใหญ่ของเอเชีย ส่งผลกระทบต่อการผลิตธัญพืช และจุดชนวนให้เกิดแรงกดดันเงินเฟ้อด้านอาหารสำหรับบางประเทศที่ผู้บริโภคอ่อนไหวด้านราคามากที่สุดในโลก 

โดยทั่วไปแล้ว รัฐบาลอินโดนีเซียจะขายผลิตภัณฑ์อาหารในราคาที่ได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐ เมื่อราคาพุ่งสูงขึ้นและกระทบผู้บริโภค โดยตลาดที่รัฐอุดหนุนในเมืองเบกาซี ขายข้าวในราคา 10,600 รูเปียห์ต่อกิโลกรัม (ประมาณ 25 บาท) และบรรจุในถุง 5 กิโลกรัม เมื่อเทียบกับราคา 14,300 รูเปียห์ (ประมาณ 33 บาท) ในตลาดเปิด แต่บูล็อก จำกัดการขายให้ลูกค้าคนละไม่เกิน 2 ถุง เพื่อป้องกันการกักตุน

นับตั้งแต่เดือนมกราคม บูล็อกได้แจกจ่ายข้าวสารจากคลังสำรองของรัฐบาลแล้วมากกว่า 300,000 ตัน ผ่านตลาดดังกล่าวหลายร้อยแห่งทั่วประเทศ หลังมีรายงานการขาดแคลนในร้านค้าปลีกสมัยใหม่ 

มีการตั้งตลาดขายข้าวสารราคาถูกเกือบ 430 แห่งในเดือนมกราคม และบูล็อกวางแผนที่จะตั้งขึ้นอีก 315 แห่งภายในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์นี้ โดยหน่วยงานของรัฐแห่งนี้ จะยังคงเดินหน้าโครงการช่วยเหลือเรื่องข้าวนี้ไปจนถึงเดือนมีนาคม 

อินโดนีเซีย ซึ่งนำเข้าข้าวมากที่สุดเป็นประวัติการณ์เมื่อปีที่แล้ว ได้จัดสรรโควต้าเพิ่มเติมอีก 1.6 ล้านตัน จากปริมาณ 2 ล้านตันที่ได้รับอนุมัติก่อนหน้านี้ สำหรับปี 2024 ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าจะกระตุ้นให้ราคาข้าวในตลาดโลกปรับเพิ่มขึ้นอีก

—————

ภาพ: Reuters