หลายชาติยินดีอิสราเอล-ฮามาสหยุดยิงชั่วคราว เปิดทางอพยพ-ส่งความช่วยเหลือ

หลายชาติยินดีอิสราเอล-ฮามาส บรรลุข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราวในฉนวนกาซา 4 วัน  เพื่อเปิดทางอพยพ ส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม

อิสราเอล-ฮามาส บรรลุข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราวในฉนวนกาซา 4 วัน หลังเกิดความขัดแย้งเข้าสู่วันที่ 47 โดยจะเริ่มหยุดยิงวันนี้เป็นวันแรก 

รัฐบาลอิสราเอล ระบุในแถลงการณ์ฉบับหนึ่งว่า ในการแลกเปลี่ยนให้กลุ่มฮามาสปล่อยตัวประกัน ฝ่ายอิสราเอลตกลงที่จะปล่อยตัวนักโทษชาวปาเลสไตน์ และอนุญาตให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปในกาซาที่ถูกปิดล้อม ได้มากขึ้น 

แถลงการณ์จากทำเนียบนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล ระบุว่า ภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว มีตัวประกันอย่างน้อย 50 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเด็กและผู้หญิง จะได้รับการปล่อยตัวเป็นอิสระ แลกกับการปล่อยตัวนักโทษชาวปาเลสไตน์ประมาณ 150 คนเป็นผู้หญิงและวัยรุ่น ออกจากเรือนจำอิสรเอล โดยตัวประกันจะได้รับการทยอยปล่อยตัวเป็นกลุ่มเล็ก ๆ ตลอด 4 วัน ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าว มีการหยุดการสู้รบอย่างเต็มรูปแบบ 

แถลงการณ์ระบุว่า อิสราเอลกำลังกดดันให้มีการปล่อยตัวเด็กมากขึ้น ข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราวจะขยายออกไปเป็นกรณีพิเศษอีก 1 วัน สำหรับการปล่อยตัวประกันทุก ๆ 10 คนโดยกลุ่มฮามาส  

ตามแถลงการณ์ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ของปาเลสไตน์สามารถเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระตามถนนหลวงสายซาลาฮุดดิน ซึ่งตัดผ่านทางเหนือและใต้ของกาซาระหว่างการพักรบ 4 วัน ขณะที่รถบรรทุกหลายร้อยคันจะได้รับอนุญาตให้ส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไปยังภูมิภาคต่าง ๆ ในกาซา  

ส่วนฮามาสยืนยันข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราวกับอิสราเอล 4 วัน ซึ่งมีกาตาร์, อียิปต์และสหรัฐฯ เป็นตัวกลางเจรจา หลังเกิดความขัดแย้ง 46 วันในการปิดล้อมกาซา โดยจะเริ่มหยุดยิงกันในเวลา 10.00 น. ของวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น อิสราเอลไม่ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเวลาเริ่มหยุดยิง แต่เอลี โคเฮน รัฐมนตรีต่างประเทศ กล่าวว่า เขาคาดหวังว่า จะได้รับตัวประกันคนแรกในวันพฤหัสบดี

ด้านกระทรวงต่างประเทศของจีน แถลงเมื่อวานนี้ว่า จีนแสดงความยินดีต่อข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราวในกาซา และหวังว่า จะช่วยผ่อนคลายวิกฤตมนุษยธรรม 

ขณะที่ทำเนียบเครมลินของรัสเซีย ออกมาชื่นชมข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราวในกาซาว่า เป็นข่าวดีแรกสำหรับความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ที่ยืดเยื้อมานาน และบอกว่า การหยุดยิงเพื่อมนุษยธรรมเป็นเพียงวิธีการเดียวเท่านั้น ในการสร้างความพยายามแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน

สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส องค์ประมุขแห่งคริสตจักรนิกายโรมันคาทอริก ได้พบให้กำลังใจญาติของตัวประกันชาวอิสราเอล และชาวปาเลสไตน์พร้อมครอบครัวในกาซา และตรัสว่า ความขัดแย้งได้ไปไกลเกินกว่าสงครามแล้วและกลายเป็น “การก่อการร้าย” โดยพระองค์ตรัสโดยไม่มีสคริปท์ต่อคริสต์ศาสนิกชนทั่วไปในบริเวณจัตุรัสเซนต์ ปีเตอร์ ไม่นานหลังการพบญาติตัวประกันชาวอิสราเอลและครอบครัวชาวปาเลสไตน์ในที่ประทับของพระองค์ 

พระองค์ตรัสว่า ได้รับทราบโดยตรงจากทั้งสองฝ่ายว่ากำลังทุกข์ยากลำบากอย่างไร พระองค์ทรงเรียกร้องให้สวดมนต์อธิษฐานจิตเพื่อให้ทั้งสองฝ่ายไม่ดำเนินการด้วยอารมณ์ความโกรธ ซึ่งสุดท้ายแล้ว จะฆ่าทุกคน 

ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากความขัดแย้งระหว่างปาเลสไตน์และอิสราเอล พุ่งเกิน 15,500 คนแล้ว จากข้อมูลที่ทางการของทั้งสองฝ่ายเปิดเผยออกมา โดยสื่อของรัฐบาลฮามาสรายงานในวันอังคารที่ผ่านมาว่า ชาวปาเลสไตน์ในกาซาเสียชีวิตทะลุ 14,000 คน ตั้งแต่เริ่มต้นความขัดแย้งในวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา เป็นเด็ก 5,840 คนและผู้หญิง 3,920 คน ขณะที่ผู้ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 33,000 คน ส่วนในเขตเวสต์แบงก์ มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 218 คน ในความขัดแย้งจนถึงคืนวันอังคารที่ผ่านมาและบาดเจ็บมากกว่า 2,850 คน ส่วนของอิสราเอลนั้น ข้อมูลของรัฐบาลระบุว่า มีผู้เสียชีวิตประมาณ 1,200 คน 

ด้านอันโตนิโอ กูแตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ หรือยูเอ็น แถลงในวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า ในความขัดแย้งปัจจุบันระหว่างกองทัพอิสราเอลและกลุ่มฮามาสปาเลสไตน์ในกาซา ซึ่งมีเด็กหลายพันคนเสียชีวิตในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา โลกกำลังเผชิญกับระดับของความรุนแรง “ที่ไม่มีใครเทียบได้และไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน” ตั้งแต่เขาเข้ารับตำแหน่งในปี 2560

กูแตร์เรส บอกว่า ประชาชน 1.7 ล้านคน ในจำนวน 2.3 ล้านคนในกาซา ขณะนี้ เป็นผู้พลัดถิ่น

ภาพ AFP