รัสเซียเปิดฉากโจมตี! ผู้นำยูเครน ประกาศกฎอัยการศึกทั่วประเทศแล้ว
ผู้นำยูเครนประกาศกฎอัยการศึกทั่วประเทศแล้ว หลังรัสเซียยิงขีปนาวุธโจมตีโครงสร้างพื้นฐานและเจ้าหน้าที่รักษาชายแดน
วันนี้ (24ก.พ.65) ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน แถลงล่าสุดว่า รัฐบาลได้ประกาศกฎอัยการศึกทั่วประเทศแล้ว ระบุว่า รัสเซียยิงขีปนาวุธโจมตีโครงสร้างพื้นฐาน และเจ้าหน้าที่รักษาชายแดนของยูเครน และได้ยินเสียงระเบิดเกิดขึ้นในหลายเมือง
เซเลนสกี้ ระบุว่า ได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯแล้ว
แถลงการณ์ล่าสุดของผู้นำยูเครนมีขึ้น หลังจากประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย สั่งเปิดปฏิบัติการทางทหารในภูมิภาคดอนบาสส์ทางตะวันออกของยูเครน
ขณะที่แถลงการจากกระทรวงการต่างประเทศของยูเครนระบุว่า จุดประสงค์ของปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียคือการทำลายรัฐยูเครน
ด้าน ดมิทโทร คูเลบา รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครน ทวีตข้อความว่า ว่าการกระทำของรัสเซียทำให้อนาคตของยุโรปและโลกตกอยู่ในความเสี่ยง และเสนอให้จัดการกับรัสเซียทันที คือ
- การคว่ำบาตรร้ายแรงต่อรัสเซียตอนนี้ รวมถึง SWIFT หรือ การห้ามโอนเงินระหว่างประเทศ
- โดดเดี่ยวรัสเซียด้วยทุกวิถีทาง ในทุกรูปแบบ
- สนับสนุนอาวุธยุทโธปกรณ์สำหรับยูเครน รวมถึง ความช่วยเหลือทางการเงิน และความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ยูเครนด้วย
ด้านประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย แถลงการณ์พิเศษถ่ายทอดทางโทรทัศน์ ว่าอนุญาตให้เปิดปฏิบัติการทางทหารพิเศษในภูมิภาคดอนบาสส์ ของยูเครนเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา และเรียกร้องให้กองทัพยูเครนใวางอาวุธและกลับบ้าน พร้อมระบุว่า รัสเซียไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องปกป้องตนเอง จากสิ่งที่เขาเรียกว่าเป็นภัยคุกคามจากยูเครนยุคใหม่ พร้อมกับโทษว่าหากมีเหตุการณ์นองเลือดก็เป็นความผิดของยูเครน และพร้อมจะตอบโต้ทันทีหากกองกำลังภายนอกพยายามแทรกแซงปฏิบัติการของรัสเซีย
คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) จัดประชุมฉุกเฉินเกี่ยวกับวิกฤตรัสเซีย-ยูเครน นายอันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ (UN) กล่าวต่อที่ประชุมเรียกร้องให้ประธานาธิบดี ปูติน ถอนทหารรัสเซียออกจากภูมิภาคดอนบาส และเตือนว่าผลกระทบจากสงครามครั้งนี้จะสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวง ไม่เพียงแค่ในยูเครน แต่จะกระทบต่อกลไกเศรษฐกิจโลกทั้งหมด
เซอร์กีย์ ไคส์ลิตส์ยา เอกอัคราชทูตยูเครนประจำ UN เรียกร้องต่อที่ประชุมให้ทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อหยุดสงคราม และกล่าวโดยตรงกับ วาซิลี เนเบนเซีย เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำ UN เสร็จสิ้นการประชุมว่า ไม่มีที่ชำระล้างสำหรับอาชญากรสงคราม พวกเขาต้องตกนรกทันที
ขณะที่ เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำ UN กล่าวในที่ประชุม ถึงปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียในภูมิภาคดอนบาส เป็นการอาศัยอำนาจตามมาตรา 51 ของกฎบัตรสหประชาชาติ ว่าด้วย “สิทธิอันชอบธรรมของการป้องกันตนเอง” เมื่อรัฐสมาชิก UN ตกเป็นเป้าหมายของการโจมตีด้วยอาวุธ และปฏิบัติการดังกล่าวจะยังคงดำเนินต่อไป จนกว่าคณะมนตรีความมั่งคงแห่งสหประชาชาติ จะสามารถใช้มาตรการที่จำเป็น เพื่อรักษาสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศได้
ภาพจาก AFP