รัสเซียยกทัพโจมตียูเครนแล้ว อ้างยุติฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในดอนบาส
สหรัฐฯ เพิ่งจะเตือนอีกครั้งว่า รัสเซียใกล้บุกยูเครนเต็มรูปแบบ และล่าสุดผู้นำรัสเซียได้ประกาศปฏิบัติการทหารในภูมิภาคดอนบาส ทางตะวันออกของยูเครนแล้ว
ความเคลื่อนไหวล่าสุดของรัสเซียมีขึ้นหลังจาก ผู้นำยูเครนเตือนว่าการบุกของรัสเซียตามที่คาดการณ์ไว้ "อาจเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามครั้งใหญ่ในทวีปยุโรป"
ล่าสุด ผู้นำรัสเซียประกาศปฏิบัติการทหารในภูมิภาคดอนบาสส์ทางตะวันออกของยูเครน และเรียกร้องให้ทหารยูเครนวางอาวุธแล้ว
ขณะที่ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศว่าจะร่วมมือกับพันธมิตรตอบโต้การบุกอย่างไม่ยุติธรรมของรัสเซียครั้งนี้
---ผู้นำยูเครนชี้รัสเซียอนุมัติโจมตียูเครนแล้ว---
ล่สำนักข่าว Reuters รายงานว่า ประธานาธิบดีโวโลดีเมียร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน แถลงว่า รัสเซียได้อนุมัติการโจมตียูเครนแล้ว และกล่าวว่า ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูตินไม่ได้ตอบรับคำเชิญที่ขอให้จัดการเจรจาร่วมกัน พร้อมกับเผยว่า เขาพยายามโทรศัพท์หาปูติน แต่สิ่งที่ได้คือความเงียบ
ผู้นำยูเครน โพสต์คลิปแถลงการณ์ความยาว 10 นาที ลงในเทเลแกรม แอปพลิเคชั่นสนทนาที่พัฒนาโดยชาวรัสเซย ในวันนี้ (24 กุมภาพันธ์) โดยพูดทั้งภาษายูเครนและภาษารัสเซีย และหวังว่าชาวรัสเซียจะได้รับชมและตอบคำถามว่าพวกเขาต้องการสงครามหรือไม่
เซเลนสกี้ ยังประกาศว่า ยูเครนจะปกป้องตัวเอง และเตือนว่าการบุกของรัสเซียตามที่คาดการณ์ไว้ "อาจเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามครั้งใหญ่ในทวีปยุโรป"
ขณะที่ ดมิโทร คูเลบา รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครนทวีตข้อความว่า "ปูตินเพิ่งเปิดการรุกรานยูเครนอย่างเต็มรูปแบบ" ย้ำว่ายูเครน "จะปกป้องตัวเอง" และ "โลกจะต้องหยุดปูติน"
สำนักข่าว Reuteres รายงานว่า เซอร์เกย์ คิสลิตซา เอกอัครราชทูตยูเครนประจำ UN ของระบุว่า ทูตรัสเซียประจำ UN ยืนยันกับเขาว่า ประธานาธิบดีรัสเซียประกาศสงครามกับยูเครนแล้ว
ด้านกระทรวงมหาดไทยของยูเครน ระบุกับ CNN: การโจมตีได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
สำนักข่าว BBC รายงาน ว่าที่เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลยูเครนที่ติดต่อกับสื่อต่างประเทศเผย ว่าสนามบินและกองบัญชาการทหารถูกโจมตี
---ยูเครนประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน 30 วัน---
รัฐสภายูเครนลงมติรับรองการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินของรัฐบาล เริ่มมีผลตั้งแต่หลังเที่ยงคืนวันพุธตามเวลาท้องถิ่น หรือ 05.00 น. วันนี้ (24 กุมภาพันธ์) ตามเวลาในไทย และจะดำเนินไปอีก 30 วัน เปิดทางให้รัฐบาลดำเนินมาตรการต่างๆ ที่เหมาะสมเพื่อรับมือกับวิกฤตการเผชิญหน้ากับรัสเซีย
มาตรการต่าง ๆ ที่จำเป็นรวมถึงเรียกตรวจยวดยานพาหนะต้องสงสัย จำกัดการให้บริการขนส่งมวลชน ห้ามการชุมนุมประท้วงและผละงาน จำกัดการนำเสนอข่าวสาร และใช้คำสั่งต่างๆ รวมถึงประกาศเคอร์ฟิว เพื่อดูแลความปลอดภัยของประชาชน รักษาความสงบสุขในประเทศและให้เศรษฐกิจภาคส่วนต่างๆ สามารถเดินหน้าได้ต่อไป
กองทัพสั่งเรียกกำลังสำรองอายุระหว่าง 18-60 ปีทั้งหมด มาเสริมทัพเพื่อเตรียมความพร้อมแล้ว ก่อนหน้านี้ยูเครนเรียกร้องให้พลเมืองของตนเองในรัสเซียเดินทางออกจากรัสเซียทันที เพื่อป้องกันอันตรายหากรัสเซียยกกำลังบุกโจมตี และใครที่มีแผนจะเดินทางไปยังรัสเซียไม่ว่าจะด้วยเหตุใดก็ให้ระงับเอาไว้ก่อน
ความเคลื่อนไหวของรัฐบาลยูเครนมีขึ้น หลังจากมีรายงานว่า รัสเซียอพยพสถานทูตในกรุงเคียฟพร้อมเชิญธงลงจากยอดเสา ขณะที่ทหารของรัสเซียขยับเข้าประชิดพรมแดนของดินแดนที่กลุ่มติดอาวุธฝักใฝ่รัสเซียในภูมิภาคดอนบาส ทางตะวันออกของยูเครนยึดครองมากขึ้นเรื่อยๆ หลังจากประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ออกคำสั่งให้ส่งทหารเข้าไปเพื่อรักษาความสงบเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (22 กุมภาพันธ์)
---รัสเซียไม่อาจเพิกเฉยต่อการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์---
ล่าสุดประธานาธิบดี ปูติน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ ประกาศปฏิบัติการทหารในภูมิภาคดอนบาสของยูเครน พร้อมกับเรียกร้องให้ทหารยูเครนในภูมิภาคตะวันออกยอมจำนน วางอาวุธแล้วกลับบ้านไป และยูเครนต้องถูกตำหนิสำหรับการนองเลือดใด ๆ พร้อมระบุว่า "ความยุติธรรมและความจริง" อยู่ในฝั่งรัสเซีย และการกระทำของรัสเซียเป็นการป้องกันตัวเอง
นอกจากนี้ ปูตินยังระบุว่า ไม่มีแผนจะครอบครองยูเครน แต่ชาวยูเครนจะ "เลือกได้อย่างอิสระ" ว่าจะให้ใครบริหารประเทศ
ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีปูตินย้ำว่า ผลประโยชน์และความมั่นคงของรัสเซียเป็นสิ่งที่ไม่สามารถต่อรองได้ แต่ยืนยันว่ารัสเซียเปิดกว้างสำหรับการเจรจาอย่างตรงไปตรงมาและจริงใจ
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า ฌอง-อีฟ เลอ ดริยอง รัฐมนตรีต่างประเทศของฝรั่งเศส และ แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ ได้ประกาศยกเลิกแผนประชุมกับเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศของรัสเซีย ที่มีกำหนดหารือในวันนี้แล้ว
ด้านกระทรวงต่างประเทศรัสเซียประกาศเมื่อวานนี้ จะตอบโต้การคว่ำบาตรของสหรัฐฯ อย่างหนักหน่วง โดยไม่จำเป็นต้องเป็นมาตรการที่เหมือนกันกับของสหรัฐฯ แต่จะสั่นสะเทือนสหรัฐฯ อย่างแน่นอน
มีรายงานว่า ผู้สื่อข่าวภาคสนาม CNN รายงานเหตุว่าได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นหลายครั้งใกล้กรุงเคียฟเมืองหลวงยูเครน
สำนักงานความปลอดภัยการบินแห่งสหภาพยุโรปหรือ EASA เตือนสายการให้หลีกเลี่ยงการใช้น่านฟ้าภายในระยุ 100 ไมล์ทะเลจากชายแดนรัสเซีย-ยูเครน เพราะอาจเสี่ยงถูกยิงตกลงมาได้
---ไบเดนประกาศ โลกจะทำให้รัสเซียรับผิดชอบ---
ประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ตอบโต้คำสั่งปฏิบัติการทหารของปูติน ที่เขาเรียกว่า "การโจมตีโดยกองกำลังทหารรัสเซีย โดยปราศจากการยั่วยุและไม่ยุติธรรม ชี้ว่า ผู้นำรัสเซียได้เลือกสงครามโดยไตร่ตรองล่วงหน้า ดังนั้น สหรัฐอเมริกา และพันธมิตรจะตอบโต้ด้วยความสามัคคีและเด็ดขาด โลกจะทำให้รัสเซียรับผิดชอบ และระบุว่าคนทั้งโลกกำลังสวดอ้อนวอนให้กับชาวยูเครน
นอกจากนี้ ไบเดนระบุว่า จะมี การตอบสนองที่เข้มแข็งและเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน" จากพันธมิตรนาโตที่ยับยั้งการรุกรานใดๆ ต่อสมาชิก
ก่อนหน้านี้ไบเดน ประกาศจะคว่ำบาตรบริษัทผู้สร้างโครงการท่อส่งก๊าซ “นอร์ด สตรีม 2” ของรัสเซีย รวมไปถึงบรรดาผู้บริหารของบริษัท เพื่อเป็นการลงโทษรัสเซียที่รับรองเอกราช 2 จังหวัดแบ่งแยกดินแดนในภาคตะวันออกยูเครน หลังจากเยอรมนีเพิ่งประกาศระงับการอนุมัติเปิดใช้งานโครงการนี้ไปแล้วเมื่อวันอังคาร
---ยูเอ็นเร่งยุติความขัดแย้ง---
ส่วนที่สหประชาชาติ มีการประชุมฉุกเฉินของคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นในประเด็นยูเครน โดยนายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการยูเอ็น เรียกร้องให้ทั้งรัสเซียและยูเครนยุติการดำเนินการยั่วยุและคุกคาม และขอให้มีการเจรจาเพื่อคลี่คลายความขัดแย้งทันที ย้ำว่าหากสถานการณ์การเผชิญหน้าบานปลาย ประชาคมโลกอาจได้เห็นสิ่งที่ไม่คาดคิดที่ไม่เคยได้เห็นมาตลอดหลายปี
นายวาซิลี เนเบนเซีย เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำยูเอ็น กล่าวว่า รัฐบาลรัสเซียไม่อาจเพิกเฉยต่อชะตากรรมของประชาชน 4 ล้านคนในภูมิภาคดอนบาส ซึ่งส่วนใหญ่ถือสัญชาติรัสเซียและพูดภาษารัสเซีย จากการต้องตกเป็นเหยื่อของ "การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” และ “การละเมิดสิทธิมนุษยชน”
เยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการนาโต ทวีตข้อความประณามรัสเซียที่โจมตียูเครน ชี้ว่าเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง และเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อความมั่นคงของยูโร-แอตแลนติก และเสี่ยงต่อชีวิตพลเรือนนับไม่ถ้วน
เขากล่าวว่าพันธมิตรนาโตจะประชุมกันเพื่อจัดการกับ "การรุกรานครั้งใหม่" ของรัสเซีย
—————
แปล-เรียบเรียง: ชายแดน คล้ายใยทอง และ สุภาพร เอ็ลเดรจ
ภาพ: ARIS MESSINIS / AFP