รัฐบาลยูเครน ลงมติประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน 30 วัน
รัฐบาลยูเครน ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน 30 วัน เพื่อรักษาความสงบในประเทศและให้เศรษฐกิจสามารถเดินหน้าต่อ ท่ามกลางวิกฤตความขัดแย้งกับรัสเซีย
วันนี้( 24 ก.พ.65) รัฐสภายูเครน ลงมติรับรองการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินของรัฐบาล เริ่มมีผลตั้งแต่หลังเที่ยงคืนวันพุธตามเวลาท้องถิ่นและจะดำเนินไปอีก 30 วัน เปิดทางให้รัฐบาลดำเนินมาตรการต่างๆ ที่เหมาะสมเพื่อรับมือกับวิกฤตการเผชิญหน้ากับรัสเซีย มาตรการต่างๆที่จำเป็นรวมถึงเรียกตรวจยวดยานต้องสงสัย จำกัดการให้บริการขนส่งมวลชน ห้ามการชุมนุมประท้วงและผละงาน จำกัดการนำเสนอข่าวสาร และใช้คำสั่งต่างๆ รวมถึงประกาศเคอร์ฟิวเพื่อดูแลความปลอดภัยของประชาชน รักษาความสงบสุขในประเทศและให้เศรษฐกิจภาคส่วนต่างๆ สามารถเดินหน้าได้ต่อไป
ขณะที่กองทัพสั่งเรียกกำลังสำรองอายุระหว่าง 18-60 ปีทั้งหมด มาเสริมทัพเพื่อเตรียมความพร้อมแล้ว ก่อนหน้านี้ยูเครนเรียกร้องให้พลเมืองของตนเองในรัสเซียเดินทางออกจากรัสเซียทันที เพื่อป้องกันอันตรายหากรัสเซียยกกำลังบุกโจมตี
ความเคลื่อนไหวล่าสุดของยูเครนเกิดขึ้นหลังจากมีรายงานว่า รัสเซียอพยพสถานทูตในกรุงเคียฟพร้อมเชิญธงลงจากยอดเสา ขณะที่ทหารของรัสเซียขยับเข้าประชิดพรมแดนของดินแดนที่กลุ่มกบฏในภูมิภาคดอนบาส ทางตะวันออกของยูเครนยึดครองมากขึ้นเรื่อยๆ หลังจากประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ออกคำสั่งให้ส่งทหารเข้าไปเพื่อรักษาความสงบเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา แม้ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดว่ากองทัพรัสเซียได้เข้าไปในอาณาเขตของยูเครนแล้วหรือไม่ แต่ภาพถ่ายดาวเทียมของสหรัฐฯ แสดงให้เห็นว่า รัสเซียได้ส่งกองกำลังและอาวุธยุทโธปกรณ์ชุดใหม่ไปยังพื้นที่ทางตะวันตกของประเทศ และมียานพาหนะกว่า 100 คันจอดอยู่ที่ลานบินในเบลารุสที่ตั้งอยู่ใกล้พรมแดนของยูเครน
ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีปูตินย้ำว่า ผลประโยชน์และความมั่นคงของรัสเซียเป็นสิ่งที่ไม่สามารถต่อรองได้ แต่ยืนยันว่ารัสเซียเปิดกว้างสำหรับการเจรจาอย่างตรงไปตรงมาและจริงใจ อย่างไรก็ดี มีรายงานว่า ฌอง-อีฟ เลอ ดริยอง รัฐมนตรีต่างประเทศของฝรั่งเศส และ แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ ได้ประกาศยกเลิกแผนประชุมกับเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศของรัสเซีย ที่มีกำหนดหารือในวันนี้แล้ว
ส่วนที่สหประชาชาติ มีการประชุมฉุกเฉินของคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นในประเด็นยูเครน โดยนายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการยูเอ็น เรียกร้องให้ทั้งรัสเซียและยูเครนยุติการดำเนินการยั่วยุและคุกคาม และขอให้มีการเจรจาเพื่อคลี่คลายความขัดแย้งทันที ย้ำว่าหากสถานการณ์การเผชิญหน้าบานปลาย ประชาคมโลกอาจได้เห็นสิ่งที่ไม่คาดคิดที่ไม่เคยได้เห็นมาตลอดหลายปี
ขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครนเรียกร้องไปยังประชาคมโลก ให้ช่วยยับยั้งแผนรุกรานของรัสเซีย ซึ่งรวมถึงการประสานเสียงประณาม ใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ รวมถึงช่วยสนับสนุนเพิ่มความแข็งแกร่งให้ยูเครน
ภาพจาก รอยเตอร์