TNN หญิงชราอเมริกันเป็นผู้หญิงคนแรกของโลกที่หายจากการติดเชื้อ HIV

TNN

World

หญิงชราอเมริกันเป็นผู้หญิงคนแรกของโลกที่หายจากการติดเชื้อ HIV

หญิงชราอเมริกันเป็นผู้หญิงคนแรกของโลกที่หายจากการติดเชื้อ HIV

หญิงชาวอเมริกันวัย 64 ปี เป็นคนแรกที่เป็นผู้หญิง และเป็นคนที่ 3 ของโลก ที่รักษาหายจากการติดเชื้อไวรัส HIV หลังได้รับการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์ที่ได้รับบริจาคจากผู้ที่มีภูมิคุ้มกันไวรัส HIV โดยธรรมชาติ

นักวิจัยเปิดเผยเมื่อวานนี้ (15 ก.พ.65) ว่า หญิงลูกครึ่งวัย 64 ปี สัญชาติอเมริกัน ที่ป่วยเป็นโรคลูคีเมีย หรือมะเร็งในเม็ดเลือดขาว และติดเชื้อ HIV ด้วย ได้รับการรักษาหายจากการติดเชื้อไวรัส HIV ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคเอดส์ หลังได้รับการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์ ที่ได้รับบริจาคมาจากผู้บริจาคที่มีภูมิคุ้มกันไวรัส HIV โดยธรรมชาติ 

ด้าน ชารอน เลวิน ประธานสมาคมโรคเอดส์นานาชาติ แถลงว่า หญิงวัย 64 ปี รายนี้ นับเป็นผู้หญิงคนแรกของโลกที่หายจากการติดเชื้อไวรัส HIV แต่เป็นผู้ติดเชื้อ HIV รายที่ 3 ของโลก ที่รักษาหายจากการติดเชื้อ HIV

ข่าวนี้ได้รับการเปิดเผยในระหว่างการประชุมเรื่องไวรัสในเมืองเดนเวอร์ ในสหรัฐฯ นอกจากนี้ ในการรักษาโรคลูคีเมียให้แก่หญิงที่ติดเชื้อ HIV ดังกล่าว ยังเป็นครั้งแรกที่นำเทคโนโลยีใหม่มาใช้ในการรักษา โดยใช้โลหิตจากสายสะดือทารก

หลังจากหญิงคนนี้ได้รับโลหิตจากสายสะดือทารกและสเต็มเซลล์ที่ได้รับบริจาคมา ปรากฏว่า จำนวนเชื้อ HIV ในร่างกายของเธอได้ลดจำนวนลง จนกระทั่งหายไปหมด และทำให้เธอปลอดจากเชื้อ HIV นาน 14 เดือน โดยที่ไม่ต้องรับประทานยาต้านไวรัส HIV เลย

ก่อนหน้านี้ มีผู้ติดเชื้อ HIV 2 คนเป็นชาย ที่หายจากการติดเชื้อ HIV เป็น 2 รายแรกของโลก คนหนึ่งผิวขาวและอีกคนเป็นคนเชื้อสายลาติน รักษาหายด้วยการได้รับสเต็มเซลล์เช่นกัน แต่เป็นสเต็มเซลล์ของผู้ใหญ่ ไม่ใช่จากสายสะดือทารก การใช้สเต็มเซลล์จากผู้ใหญ่ เป็นวิธีการรักษาที่ใช้กันมากกว่าในการปลูกถ่ายไขกระดูก.



ภาพจาก Reuters

ข่าวแนะนำ