ขนส่งเตือนปชช.ชำระภาษีรถปี 65 แนะใช้ช่องทางออนไลน์สกัดโควิด
ขนส่งออกโรงเตือนประชาชนชำระภาษีรถประจำปี 65 แนะใช้ช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ทุกช่องทางป้องกันโควิด ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุค New Normal
นางพรรณี พุ่มพันธ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ปีงบประมาณ 65 (ต.ค.63-ก.ย.65) กรมฯ เน้นผลักดันการให้ผู้เสียภาษีรถประจำปีใช้บริการชำระภาษีผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มมากขึ้น โดยยกระดับมาตรฐานการให้บริการรองรับการดำเนินชีวิตยุค New Normal ของประชาชน สำหรับรถยนต์ที่มีอายุการใช้งานเกิน 7 ปี หรือรถจักรยานยนต์ที่มีอายุการใช้งานเกิน 5 ปี หรือ รถที่ค้างชำระภาษีเกิน 1 ปี สามารถชำระภาษีผ่านช่องทางออนไลน์ได้แล้ว
โดยนำรถเข้าตรวจสภาพกับสถานตรวจสภาพรถ (ตรอ.) ก่อนดำเนินการชำระภาษีรถประจำปีออนไลน์ ผ่านเว็บไซต์https://eservice.dlt.go.th หรือแอปพลิเคชัน DLT Vehicle Tax รอรับเครื่องหมายการเสียภาษีและใบเสร็จรับเงินทางไปรษณีย์ภายใน 5 วันทำการ นับจากวันชำระเงิน ทั้งนี้ การชำระภาษีรถประจำปีผ่านแอปพลิเคชัน DLT Vehicle Tax เมื่อดำเนินการเรียบร้อยแล้ว ระบบจะแสดงหลักฐานการชำระภาษีรถประจำปีชั่วคราว เพื่อใช้เป็นหลักฐานแสดงการชำระภาษีจนกว่าจะได้รับเครื่องหมายการเสียภาษีประจำปี
นอกจากนี้ได้พัฒนาบริการรับชำระภาษีรถประจำปีอีกหลากลายช่องทาง ที่อำนวยความสะดวกให้เจ้าของรถไม่ต้องเดินทางมาสำนักงานขนส่ง และช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) อาทิ เว็บไซต์ https://eservice.dlt.go.th เคาน์เตอร์เซอร์วิส โมบายล์แอปพลิเคชัน mPAY และ Truemoney Wallet
สำหรับสถิติการให้บริการชำระภาษีรถประจำปีในเขตกรุงเทพมหานคร ในปีงบประมาณ 64 ( ต.ค.63 – ก.ย. 64) มีผู้ใช้บริการจำนวนทั้งสิ้น 5,934,319 คัน จำแนกเป็นการใช้บริการรับชำระภาษีรถประจำปี ณ สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-5 มากที่สุด จำนวน 4,295,169 คัน
รองลงมาคือการใช้บริการเลื่อนล้อต่อภาษี (Drive Thru for Tax) จำนวน 811,029 คัน ผ่านเว็บไซต์ https://eservice.dlt.go.th จำนวน 499,862 คัน ยังมีบริการรับชำระภาษีรถประจำปีผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิสมีผู้ใช้บริการจำนวน 138,109 คัน
ชำระภาษีรถประจำปีที่ห้างสรรพสินค้าตามโครงการช้อปให้พอ แล้วต่อภาษี (Shop Thru for Tax) จำนวน 103,645 คัน ในส่วนของบริการชำระภาษีผ่านแอปพลิเคชัน DLT Vehicle Tax มีผู้ใช้บริการจำนวน 36,800 คัน และบริการชำระภาษีรถประจำปีผ่านตู้รับชำระภาษีรถประจำปีอัตโนมัติ (Kiosk) มีผู้ใช้บริการจำนวน 15,176 คัน ศูนย์บริการร่วมคมนาคม จำนวน 13,851 คัน
นอกจากนี้ บริการชำระภาษีที่ทำการไปรษณีย์ จำนวน 10,951 คัน ผ่านแอปพลิเคชัน mPAY และ Truemoney Wallet จำนวน 9,613 คัน และผ่านธนาคาร จำนวน 114 คัน
ทั้งนี้พบว่าในปีนี้การชำระภาษีใช้บริการออนไลน์เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะการชำระภาษีผ่านเว็บไซต์ https://eservice.dlt.go.th คิดเป็น 90.58 % รองลงมาคือการใช้ผ่านแอปพลิเคชัน DLT Vehicle Tax 6.67 % และบริการชำระภาษีรถประจำปีผ่านตู้รับชำระภาษีรถประจำปีอัตโนมัติ (Kiosk) 2.75 % เนื่องจากมีขั้นตอนไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องเดินทางมาที่สำนักงานขนส่ง อยู่ที่ไหนก็สามารถชำระภาษีรถประจำปีได้
ที่มา :กรมการขนส่งทางบก
ภาพประกอบ :กรมการขนส่งทางบก