ดาวโจนส์ปิดร่วงกว่า 250 จุด นักลงทุนวิตกกังวลราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้น
ดาวโจนส์ปิดที่ 34,496.06 จุด ลดลง 250.19 จุด นักลงทุนวิตกกังวลการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน อาจกระทบต่อรายได้บริษัทเอกชน-การใช้จ่ายผู้บริโภค
วันนี้ (12ต.ค.64) ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (11 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันอาจส่งผลกระทบต่อรายได้ของบริษัทเอกชนและการใช้จ่ายของผู้บริโภค
นอกจากนี้ นักลงทุนยังชะลอการซื้อขายก่อนที่ธนาคารรายใหญ่ของสหรัฐจะเปิดเผยผลประกอบการในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงเจพีมอร์แกน เชส
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,496.06 จุด ลดลง 250.19 จุด หรือ -0.72% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,361.19 จุด ลดลง 30.15 จุด หรือ -0.69% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,486.20 จุด ลดลง 93.34 จุด หรือ -0.64%
นีล เบเวอร์ริดจ์ นักวิเคราะห์จากบริษัทแบร์สเติร์นกล่าวว่า การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันซึ่งส่งผลให้ต้นทุนด้านพลังงานสูงขึ้นด้วยนั้น เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในอดีตที่ผ่านมา และเหตุการณ์ดังกล่าวอาจเกิดซ้ำรอยหากราคาน้ำมันยังพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยราคาน้ำมันที่สูงขึ้นนั้นจะส่งผลกระทบต่อรายได้ของบริษัทเอกชน และบั่นทอนการใช้จ่ายของผู้บริโภค
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากการที่โกลด์แมน แซคส์ ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหรัฐในปี 2564 ลงสู่ระดับ 5.6% จากระดับ 5.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี และปรับลด GDP ในปี 2565 ลงสู่ระดับ 4% จากระดับ 4.4% โดยระบุว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐมีแนวโน้มฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ อันเนื่องมาจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ภาพจาก AFP