TNN กังวลล็อกดาวน์พื้นที่กทม. ทำนลท.เทขายดึงหุ้นไทยปิดร่วง 6.36 จุด

TNN

Wealth

กังวลล็อกดาวน์พื้นที่กทม. ทำนลท.เทขายดึงหุ้นไทยปิดร่วง 6.36 จุด

กังวลล็อกดาวน์พื้นที่กทม. ทำนลท.เทขายดึงหุ้นไทยปิดร่วง  6.36 จุด

หุ้นไทยปิดร่วง 6.36 จุด ขยับมาอยู่ที่ระดับ 1,585.72 จุด จากแรงเทขายของนักลงทุน เหตุกังวลล็อกดาวน์บางพื้นในกทม. หลังโควิดระบาดหนัก

วันนี้ (24 มิ.ย. 64 ) ดัชนีตลาดหุ้นไทย (SET )  ปิดตลาดอยู่ที่ระดับ 1,585.72 จุด ปรับลง 6.36 จุด หรือ 0.40% และมีมูลค่าซื้อขายรวมทั้งสิ้น 89,158.69 ล้านบาท ระหว่างวันดัชนีทำจุดสูงสุดที่ 1,589.33 จุด และต่ำสุดที่ 1,569.93 จุด โดยเผชิญแรงขายต่อเนื่องในตลาดหุ้นภาคเช้า ก่อนจะฟื้นตัวได้เล็กน้อยในตลาดหุ้นภาคบ่าย แต่ยังเป็นการเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดทั้งวัน

บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) โนมูระ พัฒนสิน จำกัด เปิดเผยว่า ดัชนีหุ้นไทยวันนี้ผันผวนในแดนลบ ระหว่างวันแกว่งออกข้างขาลง (Sideways Down) และฟื้นตัวทางเทคนิค (Technical Rebound) ระยะสั้นจากแนวรับ 1,569 จุด มาเคลื่อนไหวเหนือระดับ 1,580 จุด

ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันพรุ่งนี้ (25 มิ.ย.) คาดว่าดัชนีจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,590-1,600 จุด โดยชี้ว่าแนวโน้มของตลาดหุ้นไทยในระยะข้างหน้า ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวัน และจำนวนผู้ที่ได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ดังนั้น การลงทุนจึงต้องระมัดระวัง และเลือกซื้อเป็นรายตัว 

ด้าน บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้อ่อนแอกว่าตลาดหุ้นทั่วโลก โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่ติดลบแต่ไม่มาก ขณะที่ตลาดในยุโรปเทรดบ่ายนี้ก็เคลื่อนไหวในแดนบวกกัน ซึ่งตลาดต่างประเทศผ่อนคลายลงหลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ยังไม่เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยต้องการรอให้เศรษฐกิจฟื้นตัวจริงก่อน แต่ตลาดบ้านเรารับผลจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ที่จำนวนผู้ติดเชื้อโควิดอยู่ในระดับสูง และยังกังวลการล็อกดาวน์ด้วย หลังจากที่ทางการแพทย์ได้เรียกร้องให้ปิดบางพื้นที่ในกรุงเทพมหานคร ทำให้ตลาดมีความเสี่ยง หุ้นไทยจึงอ่อนแอ

นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยการเมืองในประเทศ ซึ่งมองผลกระทบต่อตลาดคงจะไม่มีนัยยะมาก มีเพียงทำให้นักลงทุนชะลอการลงทุนเพื่อรอดูเหตุการณ์ก่อน

แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (25 มิ.ย.) นายสุโชติ กล่าวว่า หากสถานการณ์การเมืองไม่มีอะไร ตลาดฯก็มีโอกาสที่จะเกิดเทคนิคเคิลรีบาวด์ได้หลังจากที่ไม่หลุดแนว 1,570 จุด แต่การรีบาวด์คงจะไปได้ไม่ไกล เพราะ Fund Flow อยู่ในทิศทางไหลออก โดยให้แนวรับ 1,570 จุด ส่วนแนวต้าน 1,590-1,600 จุด  แต่ยังต้องต่อเนื่อง รวมทั้งสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิดต่อไป ส่วนต่างประเทศให้ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯที่จะออกมาในวันพรุ่งนี้ ซึ่งถ้าออกมาพุ่งขึ้นต่อตลาดฯก็จะกลับมากังวลต่อได้ แต่การพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อสหรัฐฯส่วนหนึ่งเป็นเพราะปีก่อนฐานต่ำ อย่างไรก็ดีคาดว่าเงินเฟ้อสหรัฐฯจะค่อย ๆ ทยอยลดลงในครึ่งปีหลัง

สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่  

1.KBANK   มูลค่าการซื้อขาย  3,732.36  ล้านบาท  ปิดที่ 119.50 บาท ลดลง   0.50 บาท

2.GUNKUL  มูลค่าการซื้อขาย  3,238.55  ล้านบาท  ปิดที่   4.86 บาท ลดลง   0.06 บาท

3.RCL     มูลค่าการซื้อขาย  3,164.95  ล้านบาท  ปิดที่  48.50 บาท ลดลง   3.00 บาท

4.AOT     มูลค่าการซื้อขาย  2,890.31  ล้านบาท  ปิดที่  64.00 บาท ลดลง   1.75 บาท

5.SAWAD   มูลค่าการซื้อขาย  2,125.90  ล้านบาท  ปิดที่  68.75 บาท ลดลง   1.75 บาท

ข่าวแนะนำ