“อินเตอร์ฟาร์มา”รุกตลาดสุขภาพออก 4 ผลิตภัณฑ์ใหม่ตั้งเป้ายอดขายแตะ 60 ลบ.

วันนี้ ( 17 มี.ค.64) ดร.ตฤณวรรธน์ ธนิตนิธิพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเตอร์ ฟาร์มา จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านนวัตกรรมโปรไบโอติกและการดูแลสุขภาพ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ที่คนไทยกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ ส่งผลให้คนเป็นภูมิแพ้กันมากขึ้น และหลายคนกำลังมองหาตัวช่วยในการสร้างภูมิต้านทานเชื้อโรค และภูมิแพ้ บริษัทฯมองเห็นโอกาสในการทำตลาด โดยตลาดโภชนเภสัชถือเป็นตลาดที่ใหญ่มาก เช่น สหรัฐอเมริกามีมูลค่าถึง 70,000 ล้านบาท ส่วนในประเทศไทยมูลค่าอยู่ที่ 1,000 ล้านบาท ซึ่งมองว่ายังมีโอกาสเติบโตได้อีกมากเนื่องจากสถานการณ์ สภาพแวดล้อม รวมถึงปัจจัยเสี่ยง โดยเฉพาะสถานการณ์ฝุ่น PM  2.5 รวมไปถึง ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา หรือตั้งแต่ปี 2560 คนไทยป่วยเป็นภูมิแพ้มากขึ้น ตลอดจนปัจจัยเรื่องของการที่แม่ตั้งครรภ์เลือกที่จะผ่าคลอดแทนการคลอดธรรมชาติมากขึ้นคิดเป็นสัดส่วนถึง 40% ซึ่งทำให้ลดโอกาสที่จะได้รับโปรไบโอติก หรือแบคทีเรียดีจากแม่ได้น้อยลง เป็นต้น และเสี่ยงต่อการเป็นโรคภูมิแพ้ได้มากขึ้น  ดังนั้นจึงคาดว่าตลาดของโภชนเภสัช จะเติบโตได้อีก  3 เท่า ภายใน 2-3 ปีนี้ 

ขณะเดียวกัน จากการสำรวจในประเทศไทยพบว่า มีอุบัติการณ์เพิ่มขึ้น 3-4 เท่า ภายในระยะเวลา 40 ปีที่ผ่านมา โดยเป็นโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ร้อยละ 23-30 โรคหลอดลมอักเสบจากภูมิแพ้หรือโรคหืดร้อยละ 20-15 โรคผื่นผิวหนังอักเสบจากภูมิแพ้ร้อยละ 15 และโรคแพ้อาหารร้อยละ 5 ซึ่งจะพบในเด็กสูงกว่าในผู้ใหญ่ และเด็กไทยมีอาการของโรคภูมิแพ้ทางจมูกประมาณร้อยละ 40 หรือประมาณร้อยละ 13 ของเด็กไทย โดยชนิดของโรคภูมิแพ้ที่พบบ่อย แบ่งตามระบบของร่างกายออกเป็น 4 กลุ่ม คือ 1.โรคภูมิแพ้ทางเดินหายใจ 2.โรคภูมิแพ้ทางผิวหนัง 3.โรคภูมิแพ้ทางตา และ 4.โรคภูมิแพ้หลายระบบ หรือแบบช๊อค

ดังนั้น บริษัทฯจึงได้นำเข้าผลิตภัณฑ์ใหม่ 4 ตัว จาก 4 ประเทศ ได้แก่ 

-  ProBiota BL นวัตกรรมโปรไบโอติกแบคทีเรีย จาก “ประเทศฝรั่งเศส” ซึ่งเป็นโภชนเภสัชที่มีหลักฐานการวิจัยทางการแพทย์ว่าช่วยเรื่องภูมิแพ้และเพิ่มภูมิคุ้มกัน ราคา 2,400 บาท

-  ProImmoโภชนเภสัชเพื่อการเสริมภูมิคุ้มกันร่างกาย วิจัยและพัฒนาใน “ประเทศญี่ปุ่น” ที่ประกอบด้วยสารภูมิคุ้มกันสำคัญ sIgAและ IgG เหมือนในน้ำนมแม่ เต็มไปด้วยสารภูมิคุ้มกัน  ช่วยลดการติดเชื้อที่ระบบทางเดินอาหาร และทางเดินหายใจ ลดการเจริญเติบโตของเชื้อก่อโรค เช่น แบคทีเรีย ไวรัส เหมาะกับผู้ที่ผ่าคลอด และ ได้รับน้ำนมแม่ไม่เพียงพอ 

ราคา 2,400 บาท

- Vitamuneโภชนเภสัชเพื่อการเสริมภูมิคุ้มกันร่างกาย จาก”ประเทศเยอรมนี” ที่รวมสารอาหารและสารสกัดจากธรรมชาติ 8 ชนิด ลดภูมิแพ้ ลดเชื้อก่อโรค ลดความเสี่ยงในการเป็นหวัด ต้านอนุมูลอิสระ และการอักเสบที่เป็นสาเหตุให้เกิดโรคเรื้อรังต่างๆ เหมาะกับ ผู้ที่เป็นหวัด เจ็บคอบ่อยๆ ติดเชื้อง่าย ภาวะร่างกายอ่อนแอ ราคา 900 บาท และ

- Vita Detozziโภชนเภสัชจากอเมริกา เป็นสารสกัดเข้มข้นจากบร๊อคโคลี่ ที่ให้สาร ซัลโฟราเฟน ที่มีหลักฐานการวิจัยว่า สามารถขจัดสารพิษ โดยเฉพาะ PM 2.5 ได้เป็นอย่างดี

ซึ่งเป็นการนำเข้าผลิตภัณฑ์ขายดี พร้อมกันถึง 4 ตัว จาก 4 ประเทศ  ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น เยอรมัน และสหรัฐอเมริกา เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าในทุกช่วงวัย ตั้งแต่เด็กจนถึงผู้สูงอายุ ที่เป็นภูมิแพ้ ผู้ที่ติดเชื้อง่าย ต้องการเสริมภูมิคุ้มกัน และ ขจัด PM 2.5

โดยตั้งเป้าหมาย สิ้นปี 2564 นี้ จะสามารถทำยอดขายผลิตภัณฑ์ทั้ง 4 ตัว ได้ไม่ต่ำกว่า 60 ล้านบาท แบ่งเป็นผลิตภัณฑ์ ProBiota BL 30 ล้านบาท ,ผลิตภัณฑ์ ProImmo 10 ล้านบาท และผลิตภัณฑ์ Vitamune 10 ล้านบาท และ ผลิตภัณฑ์ Vita Detozzi 10 ล้านบาท 

อย่างไรก็ดี ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาได้เจาะกลุ่มลูกค้าผ่านช่องทางการจัดจำหน่ายหลัก  คือโรงพยาบาลชั้นนำต่างๆ อาทิ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ , โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท, โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์, โรงพยาบาลรามคำแหง, โรงพยาบาลพญาไท, โรงพยาบาลเซนต์หลุยส์,โรงพยาบาลเปาโล เป็นต้น ซึ่งการเปิดตัวครั้งนี้ เป็นการเปิดตัวสู่ช่องทางตลาดผู้บริโภค ( consumer market) ซึ่งประกอบด้วย ร้านขายยาทั่วไป ห้างค้าปลีกสมัยใหม่(โมเดิร์นเทรด) ซุปเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ และช่องทางออนไลน์ของบริษัทฯทั้ง เพจ Facebook Interpharma Thailand ,เว็บไซต์ www.interpharma.co.th ,ไลน์@interpharma ,คอลเซ็นเตอร์094-956-9536 รวมถึงช่องทาง Shopee คาดว่าจะประสบความสำเร็จในการทำตลาดแน่นอน 

ขณะเดียวกัน ยังมีผลิตภัณฑ์  ProLivo นวัตกรรมโภชนเภสัชเพื่อการดูแลตับแบบครบวงจร ที่วิจัยและพัฒนาในประเทศ ญี่ปุ่น รวมสารอาหาร สารสกัดจากธรรมชาติ และวิตามิน แร่ธาตุ มากถึง 20 ชนิด เพื่อบำรุง ปกป้อง และฟื้นฟู การทำงานของตับ และสำหรับผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ และ มีภาวะไขมันแทรกตับ เข้ามาทำตลาดเสริมทัพด้วย พร้อมตั้งเป้ายอดขายไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท ในสิ้นปี 2564 นอกจากนี้ ยังเตรียมออกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารสกัดกัญชง ที่กำลังเป็นที่สนใจของผู้บริโภคในเร็วๆนี้ด้วย