เปิดเงื่อนไขกองสลากฯ รับสมัครผู้ค้าหวยขาย 80 บาท ได้งวดละ 25 เล่ม ห้ามเดินเร่ขาย

จากกรณีที่ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ออกประกาศรับสมัครตัวแทนจำหน่ายสลากประเภทบุคคลทั่วไป (ผู้ค้ารายเดิม) ที่อยู่ในเขตกรุงเทพฯ และนนทบุรี เพื่อเข้าร่วมเป็นเครือข่ายจีแอลโอ ออฟฟิเซียล เซลเลอร์ส จำหน่ายสลากฯ ใบละ 80 บาท เพื่อเป็นทางเลือกในการขายลอตเตอรี่ตามราคาที่กฎหมายกำหนด เพื่อแก้ปัญหาขายลอตเตอรี่เกินราคา โดยจะเปิดรับสมัครถึงวันที่ 5 มีนาคมนี้ และประกาศผลคัดเลือกตัวแทนภายในเดือนพฤษภาคม 2564

โดยจะนำร่องเปิดรับสมัครในกรุงเทพฯ และนนทบุรีก่อน โดยกรุงเทพฯจะเปิดรับสมัคร 50 จุด เขตละ 1 จุด และนนทบุรี 6 จุด อำเภอละ 1 จุด เมื่อสมัครเข้าร่วมและผ่านการคัดเลือกเป็นเครือข่ายแล้ว จะได้รับลอตเตอรี่จากสำนักงานสลากฯไปขายเพิ่มจากงวดละ 5 เล่ม เป็น 25 เล่ม แต่ต้องห้ามนำไปขายต่อ หรือขายเกิน 80 บาท และต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดอย่างเคร่งครัด หากดำเนินการได้ผลดี สำนักงานสลากฯ จะพิจารณาขยายเครือข่ายลอตเตอรี่ 80 บาทไปยังจังหวัดอื่นต่อไป

(อ่านข่าว : กองสลากฯ รับสมัครเครือข่ายขายหวย 80 บาท นำร่อง กทม.–นนทบุรี ถึง 5 มี.ค.นี้)

ล่าสุด วันนี้ (1 มี.ค.64) ผศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการและโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยกับรายการ "คนชนข่าว" ทาง TNN ช่อง 16 โดยระบุว่า เรื่องดังกล่าว เป็นเรื่องจริง และอยู่ระหว่างการเปิดรับสมัคร คาดว่าจะเริ่มดำเนินการตามขั้นตอนได้ช่วงเดือน พ.ค.นี้ 

เนื่องด้วยสลากกินแบ่งรัฐบาล ได้พยายามหาช่องทางให้ประชาชนได้ซื้อสลากฯ ในราคา 80 บาท ให้ได้ ซึ่งจะพยายามทำให้ได้ทุกใบ แต่ด้วยระบบตลาด สภาพผลิตภัณฑ์ที่เป็นอยู่ ยังไม่ได้เข้าสู่ระบบออนไลน์ โดยยังมีผู้ขายอยู่นั้น ก็จะมีบางคนขายเกินราคา จึงเกิดเป็นไอเดียทำโครงการนำร่อง โดยให้มีผู้ขายที่เป็นตัวแทนและได้รับสลากฯ เป็นโควต้าทุกเดือนๆ ละ 5 เล่ม โดยเสนอให้เข้าร่วมโครงการเป็น "ตัวแทนการขายอย่างเป็นทางการ" หรือที่เรียกว่า จีแอลโอ ออฟฟิเซียล เซลเลอร์ส หรือภาษาบ้านๆ คือ "คนขายซื่อสัตย์" ขายในราคา 80 บาททุกใบ ซึ่งจากเดิมจะได้โควต้าเดือนละ 5 เล่ม

ทางกองสลากฯ จึงเสนอให้ขายสลากฯ เฉพาะที่ส่งให้ไปอย่างเดียว 25 เล่ม โดยห้ามรับจากที่อื่นมาขาย และห้ามขายเกินราคา รวมทั้ง จะต้องติดตั้งกล้องวงจรปิดให้เห็นกระบวนการซื้อขายว่า 80 บาทจริง และป้องกันไม่ให้เกิดการขายช่วง เช่น ขายในราคา 80 บาท และคนซื้อนำไปขายต่อ 

ทั้งนี้ จะเริ่มโครงการนำร่องในพื้นที่กรุงเทพฯ และนนทบุรี ซึ่งมีทั้งหมด 56 จุด จะมีอำเภอละ 1 จุดเท่านั้น โดยล่าสุดพบผู้สมัคร 260 คน ครบทุกเขตแล้ว แต่กรุงเทพฯ บางเขตยังไม่มีคนสมัคร โดยหลังจากนี้จะมีกระบวนการคัดเลือก ทำความเข้าใจร่วมกัน ก่อนที่จะเริ่มต้นโครงการ มิ.ย. แต่ทางกองสลากฯ จะคัดกรองให้แล้วเสร็จภายในเดือน พ.ค. 

และหากโครงการดังกล่าวประสบความสำเร็จ คาดหมายว่าจะขยายโครงการไปในหลายๆ จังหวัด อย่างน้อยอำเภอละ 1 แห่ง จะมีสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ขายในราคาใบละ 80 บาท จำนวน 25 เล่ม หรือ 25,000 ใบ ทั้งสลากฯ 5 ใบ 2 ใบ 3 ใบ หรือสลากฯ แบบคละตามความเหมาะสม เป็นสิ่งที่กำลังดำเนินการเพื่อเป็นทางเลือกประชาชน ให้ราคาสลากฯ ถูกลง ซึ่งเบื้องต้นที่ต้องเป็นพื้นที่กรุงเทพฯ นนทบุรี เนื่องจากว่าเป็นโครงการนำร่อง ตรวจสอบง่าย ควบคุมง่าย

สำหรับวิธีการสมัคร เป็นโครงการเฉพาะผู้ที่เป็นตัวแทนและได้โควต้า จำหน่ายเดือนละ 5 เล่ม เนื่องจากมีประวัติ และหลักแหล่งในการขายแน่นอน ดังนั้น ผู้ค้าจะมีรหัสตัวแทน และเดินทางมาสมัครที่สำนักงานสลากฯ หรือผ่านระบบออนไลน์ และหากมีบางเขตมีผู้สมัครเยอะก็จะใช้วิธีการจับสลากฯ พร้อมไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊ก เพื่อให้เห็นว่ากระบวนการโปร่งใส

"ผู้ค้าสลากฯ ส่วนใหญ่ที่มาสมัครไม่มีกล้องวงจรปิด ต้องติดเพิ่มเติม เพียงแต่ ต้องเข้าใจสภาพความจริงว่า การเข้าร่วมโครงการนี้จะไม่สามารถรับสลากฯ จากที่อื่นมาขายได้เลย ทุกคนได้โควต้าสลากฯ 5 เล่ม แต่บางร้านแผงใหญ่มาก แสดงว่ารับมาจากที่อื่น ทำให้เขาต้องขายเกินราคาทโดยขั้นตอนใครที่อยู่ในแผงไหนก็จะถ่ายรูปเก็บไว้ และตัดโควต้าผู้ที่ขายช่วง ซึ่งมีกลไกเหล่านี้อยู่แล้วในการดำเนินการ

เพราะฉะนั้น กลุ่มเหล่านี้เป็นกลุ่มที่ไม่ได้เคยมีกล้องวงจรปิด ทำการพิสูจน์จากตลาดว่า ขาย 80 บาทจริง ซึ่งหากผู้ค้าคิดว่าต้องการเข้าร่วมโครงการนำร่องนี้ โดยเป็นสัญญาปีต่อปี ถ้าทำได้ดีก็อาจจะได้โควต้าต่อเนื่องไป 25 เล่มทุกงวด แต่หากทำผิดพลาดทางสำนักงานสลากฯ ก็จะยึดเงินค้ำประกันที่วางไว้ 10% งวดไหนพบความบกพร่องก็จะถูกตัดโควต้าไป" ผศ.ดร.ธนวรรธน์ อธิบาย

สำหรับการเข้าร่วมโครงการต้องมีหน้าร้านชัดเจน พ่อค้าแม่ค้าที่หาบแร่เข้าร่วมไม่ได้ ทำให้มีต้นทุนสูง จึงอยากได้โควต้าเพิ่มมากขึ้นกว่า 25 เล่ม มีโอกาสหรือไม่นั้น ผศ.ดร.ธนวรรธน์ ตอบว่า ตอนนี้ยังไม่ได้ นั่นคือสาเหตุที่จำนวนผู้สมัครเขตกรุงเทพ นนทบุรี สมัครเพียง 260 คน หรือ 5% เพราะฉะนั้น ผู้ค้าบางคนต้องตัดสินใจถ่วงน้ำหนัก บางคนมองว่าไม่คุ้ม ไม่เข้าร่วมดีกว่า 

นอกจากนี้ โครงการนำร่องจำกัดแค่ 1,400 เล่ม จึงไม่ได้กระทบต่อการขายสลากฯ ทั่วไป ซึ่งอนาคตนก็เป็นไปได้ที่อาจจะได้มากกว่า 25 เล่ม เพราะขณะนี้อยู่ในช่วงทดลองประมาณ 3-6 เดือน หรืออาจจะขยายไปยังจังหวัดอื่นแล้วแต่การประเมิน 

ผศ.ดร.ธนวรรธน์ ระบุว่า เหตุผลที่มีมาตรการใหม่ออกมา ไม่ใช่เป็นเพราะว่าใช้สูตร 2-1-1-1 หรือการให้รางวัลนำจับไม่เวิร์ค แต่เพราะเป็นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ การขายออนไลน์เวิร์ค 100% แต่ไม่มีคนขายเลย และทำร้ายอาชีพของคนที่เป็นผู้ค้า ซึ่งทางกองสลากฯ พยายามคิดค้นวิธีที่ทำให้การขายอยู่ได้ เป็นทางเลือกให้ประชาชน โดยที่ไม่ทำร้ายกันในระบบการขายสลากฯ