หุ้นไทยปิดร่วงแรงขายDELTA-พลังงานฉุด
ตลาดหุ้นไทยปิดร่วง 14.70 จุดสอดรับตลาดหุ้นในภูมิภาค ผสมโรงแรงขายDELTA-พลังงานฉุด จับตาประชุมเฟด 28 ม.ค.นี้ แนะหุ้นเปิดเมือง-รับผลดีจากวัคซีน-มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว
นายฐกฤต ชาติเชิดศักดิ์ ผู้ช่วยผู้จัดการ ฝ่ายวิจัย บล. เอเซีย พลัส เปิดเผยถึงภาวะตลาดหุ้นปิดที่ 1,498.13 จุด ลบ 14.70 จุด หรือ 0.97 % ระหว่างวันเคลื่อน ไหวสูงสุด 1,515.32 จุด และต่ำสุดที่ 1,498.05 จุด มูลค่าการซื้อขาย 78,806.95 ล้านบาทว่า ตลาดหุ้นไทยปิดลบสอดรับกับตลาดหุ้นในภูมิภาคที่ลงกันถ้วนหน้า ยกเว้นเกาหลีใต้ ญี่ปุ่นปิดบวก เนื่องจากไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาหนุนตลาด ประกอบกับนักลงทุนปรับพอร์ตเทขายหุ้นพลังงาน เพื่อจองซื้อหุ้นOR ส่งผลให้หุ้นในกลุ่มพลังงานปรับตัวลง เช่น PTT,PTTEP, IVL, GULF,GPSC นอกจากนี้ DELTA ติด Cash Balance ต่อไปจนถึง 16 ก.พ. นี้เป็นปัจจัยที่กดดัชนีเข้าสู่แดนลบ
สำหรับปัจจัยที่ติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดในวันที่ 28 ม.ค.นี้ว่าจะส่งสัญญาณดอกเบี้ยอย่่างไร คาดว่าคงดอกเบี้ยไว้ที่ 0.25% และรอดูว่าเฟดจะประกาศแผนการลดการเข้าซื้อสินทรัพย์ (QE Tapering) หรือไม่ ถ้าดำเนินการจริงจะส่งผลดีต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ แต่ส่งผลกระทบต่อหุ้นไทย ซึ่งจากการศึกษาข้อมูลในปี 56 ที่ผ่านมาเพียงแค่เฟดส่งสัญญาณเรื่องนี้ทำให้หุ้นในวันที่ 19 เม.ย.56 ปรับตัวลง 2.5% เงินทุนต่างชาติไหลออก 6,300 ล้านบาท รวมการไหลออกในช่วง 6 วันประมาณ 29,000 ล้านบาท
สาเหตุที่ยังไม่ทำ QE Tapering การฉีดวัคซีนยังไม่กระจายวงกว้าครอบคุลมประชากรสหรัฐ ผู้ิติดเชื้อโควิดยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เงินเฟ้อยังไม่ถึง 2% ปัจจุบันอยู่ที่ 1.1% ดังนั้นยังมองว่าเงินทุนยังไหลเข้าตลาดหุ้นไทย
ส่วนปัจจัยในประเทศยังเป็นเรื่องผู้ติดเชื้อโควิดที่ยังสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะจังหวัดสมุทรสาคร แต่ต้องดูว่าในบางพื้นที่รัฐจะมีการผ่อนคลายกิจกรรมทางเศรษฐกิจเพิ่มหรือไม่ ซึ่งจะส่งผลดีต่อหุ้นเปิดเมือง เช่น SISB,BTS,BEM,PLANB รวมถึงหุ้นกลุ่มแบงก์ เช่น BBL , TISCO
อย่างไรก็ตามในส่วนกลยุทธ์การลงทุนหุ้น Top Pick เป็นหุ้นเกี่ยวกับวัคซีนและมีปัจจัยบวกเฉพาะเช่น BDMS (FV @ 24) เป็นผลมาจากการพัฒนาการวัคซีนจะทำให้ผู้ป่วยต่างชาติเข้ามาใช้บริการเพิ่ม OSP (FV @ 41) หลังกระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศปลดล็อกส่วนของกัญชาและกัญชงให้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้โดยไม่จัดเป็นยาเสพติด รวมถึงหุ้น INSET (FV @ 4.66) คาดว่ากำไรปี 63 โต 12% และในปี 64-65 โต 15-20% ส่วนกรอบการลงทุนในพรุ่งนี้คาดว่าแนวรับอยู่ที่ 1,485 จุด แนวต้านอยู่ที่ 1,515 จุด
เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNTHAILAND.comfacebook : TNNONLINE
facebook live : TNN Live
twitter : TNNONLINE
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNONLINE
Instagram : TNN_ONLINE
TIKTOK : @TNNONLINE