เปิดแผนน้ำกู้วิกฤตภัยแล้งอีอีซี

นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก เห็นชอบแผนบริหารจัดการน้ำรองรับเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ปี 2563-2580 สำหรับพัฒนาและจัดการน้ำต้นทุน 53 โครงการ วงเงิน 52,797 ล้านบาท เพื่อบริหารจัดการน้ำระยะยาว แบ่งเป็น แผนพัฒนาแหล่งน้ำต้นทุน 38 โครงการ วงเงิน 50,691.10 ล้านบาท เช่น สร้างอ่างเก็บน้ำคลองวังโตนด อ่างเก็บน้ำคลองโพล้ และพัฒนาระบบสูบกลับคลองสะพาน-อ่างเก็บน้ำประแสร์ ,แผนบริหารจัดการด้านความต้องการใช้น้ำ 12 โครงการ วงเงิน 1,927.15 ล้านบาท เช่น แผนการบริหารจัดการลดน้ำสูญเสีย ,   การศึกษาจัดทำฐานข้อมูลพัฒนาน้ำบาดาล 3 โครงการ วงเงิน 178.99 ล้านบาท ขณะที่ การผลิตน้ำจืดจากทะเลเตรียมพิจารณาการลงทุนในอนาคตกับภาคเอกชนต่อไป

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังรับทราบแผนบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาของอีอีซี เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาภัยแล้งปี 2563 โดยระยะสั้นมีมาตรการเร่งด่วนเพิ่มปริมาณน้ำได้แก่ โครงการสูบน้ำกลับคลองสะพาน มายังอ่างเก็บน้ำประแสร์ คาดจะมีปริมาณน้ำ 1.5 แสนลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.)/วัน ,  โครงการผันน้ำคลองหลวงมายังอ่างเก็บน้ำบางพระ คาดว่าจะมีปริมาณน้ำ 3 ล้านลบ.ม. ของ กรมชลประทาน ,โครงการผันน้ำจากลุ่มน้ำวังโตนด จังหวัดจันทบุรี มายังอ่างเก็บน้ำประแสร์ คาดจะมีปริมาณน้ำ 10-35 ล้านลบ.ม.  โดยเริ่มผันน้ำ 4.3 แสนลบ.ม.ต่อวัน ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2563  ที่ผ่านมา

ส่วนมาตรการเสริม ให้การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) จัดทำแผนลดใช้น้ำ 10% ช่วงเดือนมกราคม ถึงเดือนมิถุนายน , โครงการเจรจาซื้อน้ำจากบ่อดินเอกชนเข้าระบบ จังหวัดชลบุรี และฉะเชิงเทรา คาดจะมีปริมาณน้ำ 16 ล้านลบ.ม. ,โครงการสูบน้ำจากอ่างเก็บน้ำคลองใหญ่ มายังหนองปลาไหล สามารถผันน้ำ 1 แสนลบ.ม./วัน , และโครงการวางท่อคลองน้ำแดง เพิ่มการระบายน้ำจากอ่างเก็บน้ำประแสร์ มาอ่างเก็บน้ำคลองใหญ่ คาดว่าจะมีปริมาณน้ำ 1.3 แสนลบ.ม./วัน   ซึ่งทางบริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก หรือ อีสต์ วอเตอร์  ร่วมดำเนินงานกับกรมชลประทาน

ก่อนหน้านี้ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.)  รายงานว่า สถานการณ์น้ำในพื้นที่ อีอีซี  อยู่ในขั้นรุนแรง มีน้ำต้นทุนพอใช้ถึงเดือนมิถุนายน  2563 เท่านั้น   กนอ.จึงกำหนดแผนบริหารจัดการน้ำระยะเร่งด่วน โดยการเพิ่มน้ำต้นทุนเพื่อใช้ในนิคมอุตสาหกรรม โดยการนำน้ำจากคลองชากหมาก จังหวัดระยอง มาผ่านการบำบัดโดยการรีไซเคิลด้วยระบบ RO  โดยผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรมที่ร่วมโครงการจะจ่ายค่าน้ำเพิ่มในส่วนนี้  2.76 บาทต่อลูกบาศก์เมตร แต่หากมีผู้ประกอบการรายใดที่ไม่เข้าร่วมกับโครงการ ต้องการใช้น้ำจากมาตรการนี้ สามารถขอรับน้ำได้ในราคาต้นทุน ที่ 72 บาทต่อลูกบาศก์เมตร

เกาะติดข่าวที่นี่ 

website: www.TNNThailand.com  
facebook : TNNThailand 
twitter : @TNNThailand 
Line : @TNNThailand 
Youtube Official : TNNThailand