ข่าวดีรับปีใหม่! กกพ.มีมติตรึงค่าไฟฟ้า ม.ค.-เม.ย 63 เป็นของขวัญ

คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน มีมติตรึงค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) งวดเดือนมกราคม - เมษายน 2563 ไว้เท่าเดิมที่ เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน ลดค่าครองชีพ

วันนี้ (11 พ.ย.62) น.ส.นฤภัทร อมรโฆษิต เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ในฐานะโฆษก กกพ. เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) มีมติให้คงอัตราค่าไฟฟ้าผันแปร (ค่าเอฟที) สำหรับการเรียกเก็บในเดือนมกราคม-เมษายน 2563 จำนวน -11.60 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลให้อัตราค่าไฟฟ้าเฉลี่ยอยู่ที่ 3.64 บาทต่อหน่วยเท่าเดิม เพื่อลดภาระค่าครองชีพและเป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน

อย่างไรก็ตาม กกพ.คาดว่าจะใช้เงิน 6,869 ล้านบาท สำหรับบริหารจัดการเพื่อรักษาค่าเอฟทีให้อยู่ในระดับเดิม แบ่งเป็นค่าปรับกรณีโรงไฟฟ้าไม่สามารถปฏิบัติได้ตามสัญญาและกรณีขาดส่งก๊าซธรรมชาติ 264.97 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 6,604 ล้านบาท มาจากการกำกับฐานะการเงินให้เป็นไปตามเกณฑ์ที่ กกพ. กำหนด ซึ่งจากการประมาณการค่าเชื้อเพลิงในงวดปัจจุบัน (ก.ย.- ธ.ค.2562) เทียบกับราคาค่าเชื้อเพลิง ณ ปัจจุบัน พบว่าค่าเชื้อเพลิงยังต่ำกว่าที่ประมาณการที่ตั้งไว้

สำหรับปัจจัยที่ใช้ในการพิจารณาค่าเอฟทีงวด ม.ค.-เม.ย.63 ประกอบด้วย ความต้องการพลังงานไฟฟ้าในช่วงเดือนมกราคม –เมษายน 2563 เท่ากับ 65,724 ล้านหน่วย ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดือนกันยายน –ธันวาคม 62 เท่ากับ 64,195 ล้านหน่วยหรือเพิ่มขึ้น 2.38 % ตามสภาพความต้องการไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากเข้าสู่ฤดูร้อน ขณะที่เชื้อเพลิงที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้าส่วนใหญ่ยังคงใช้ก๊าซธรรมชาติ คิดเป็น 57.71% รองลงมาเป็นถ่านหิน 17.62% และการซื้อไฟฟ้าจากต่างประเทศ 14.75%

สำหรับแนวโน้มราคาเชื้อเพลิงที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้า ช่วงเดือนมกราคม-เมษายน 63 คาดว่าราคาก๊าซธรรมชาติเท่ากับ 266.69 บาทต่อล้านบีทียู ปรับตัวลดลงจากงวดที่ผ่านมา 23.70 บาทต่อล้านบีทียู ราคาถ่านหินนำเข้าเฉลี่ยของโรงไฟฟ้าเอกชนอยู่ที่ 2,471.60 บาทต่อตัน ปรับตัวลดลงงวดที่ผ่านมา 267.17 บาทต่อตัน