TNN สรรพสามิต เร่งศึกษาเก็บ "ภาษีความเค็ม" คาดชัดเจนปี 68

TNN

Wealth

สรรพสามิต เร่งศึกษาเก็บ "ภาษีความเค็ม" คาดชัดเจนปี 68

สรรพสามิต เร่งศึกษาเก็บ ภาษีความเค็ม คาดชัดเจนปี 68

สรรพสามิต เร่งศึกษาเก็บ "ภาษีความเค็ม" คาดชัดเจนปี 68 เล็ง "ขนมขบเคี้ยว" โดนก่อน

น.ส.กุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า กรมสรรพสามิต อยู่ระหว่างศึกษารายละเอียดการจัดเก็บภาษีจากความเค็ม (ภาษีโซเดียม) ซึ่งเบื้องต้นจะพิจารณาจัดเก็บภาษีความเค็มจากสินค้าประเภทขนมขบเคี้ยวก่อน เพราะถือเป็นสินค้าในกลุ่มที่ไม่มีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิตประจำวัน


โดยอาจเป็นการจัดเก็บภาษีในอัตราขั้นบันได เช่นเดียวกับภาษีความหวาน ที่ได้มีผลบังคับใช้ไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยคาดว่าจะน่าจะมีความชัดเจนภายในปี 2568 สำหรับหลักเกณฑ์เบื้องต้นนั้น กรมฯ จะพิจารณาจากปริมาณเกลือที่อยู่ในผลิตภัณฑ์หรือสินค้านั้น โดยหากมีปริมาณเกลือมาก ก็จะต้องเสียภาษีมาก แต่หากมีปริมาณเกลือน้อย ก็จะเสียภาษีในระดับที่ลดลง


ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้ประกอบการปรับเปลี่ยนส่วนผสมที่ใช้ในการปรุงแต่งอาหาร โดยยืนยันว่าขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างการศึกษาและพิจารณาในรายละเอียดสำหรับการดำเนินการ ซึ่งจะต้องดูให้รอบคอบ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อผู้ผลิต และหากกฎหมายมีผลบังคับใช้ ก็จะมีระยะเวลาให้ผู้ประกอบการได้ปรับตัว


"ช่วง 7-8 ปีที่ผ่านมา ที่มีการจัดเก็บภาษีความหวาน พบว่าประชาชนบริโภคหวานลดลง จึงถือว่าเป็นกลไกที่มีประสิทธิภาพที่จะเข้ามาช่วยดูแลสุขภาพของประชาชน ส่วนเรื่องโซเดียมนั้น มีข้อมูลระบุว่าคนไทยบริโภคโซเดียม สูงกว่าอัตราที่ควรจะเป็นถึง 2 เท่า ดังนั้นกรมฯ จึงจะต้องเข้ามาพิจารณาในส่วนนี้ โดยดูว่าจะใช้กลไกภาษีอย่างไร เพื่อให้ผู้บริโภคมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม" 


สำหรับเป้าหมายการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพสามิต ในปีงบประมาณ 2568 (ต.ค.67-ก.ย.68) ว่า อยู่ที่ 6.09 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณก่อนหน้าถึง 16% ถือว่าเป็นเป้าหมายที่ท้าทาย โดยยังไม่ได้รวมมาตรการด้านภาษีที่จะใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจต่าง ๆ ซึ่งหลังจากนี้ อาจจะต้องพิจารณาเป้าหมายการจัดเก็บรายได้ของกรมฯ ให้สอดคล้องกับมาตรการด้านภาษีของรัฐบาลมากขึ้น


ขณะที่ภาพรวมการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพสามิต ในช่วงเกือบ 3 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2568 (ต.ค.-ธ.ค.67) อยู่ที่ 1.2 แสนล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายที่ 1.18 แสนล้านบาท โดยหลัก ๆ มาจากภาษีเบียร์ ที่เติบโตได้เป็นอย่างดี และภาษีน้ำมัน ที่สามารถจัดเก็บรายได้อยู่ที่ 53,000 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 40,414 ล้านบาท 


รวมถึงภาษีสุรา-ยาสูบ ที่ยังสามารถจัดเก็บได้ในระดับที่ทรงตัว ส่วนการจัดเก็บรายได้ที่ต้องจับตา ได้แก่ ภาษีรถยนต์ ซึ่งจัดเก็บรายได้อยู่ที่ 15,000 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 23,000 ล้านบาท


ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง