SA ดึงลูกค้าต่างชาติ ลงทุนห้องชุด

นายขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด (มหาชน) หรือ SA เปิดเผยว่า บริษัทได้วางกลยุทธ์ใหม่เพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจ โดยเปิดตัวโปรแกรมการลงทุนแบบใหม่ในชื่อ Investment Program ซึ่งมุ่งเน้นให้บริการแก่ลูกค้าที่ต้องการสร้างรายได้แบบ Passive Income 

ประกอบด้วยอาคาร Cassia Rama 9 Bangkok (แคสเซีย พระราม 9) โรงแรมในกลุ่มเดียวกันกับโรงแรม Banyan Tree (บันยัน ทรี) ซึ่งอยู่ใน เครือ Banyan Group (บันยันกรุ๊ป)  ที่มีชื่อเสียงและมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับสากล

โปรแกรมการลงทุนดังกล่าวเปิดโอกาสให้ลูกค้าลงทุนในห้องชุด พร้อมทำสัญญาให้ทีมบริหารโครงการดูแลในรูปแบบ Cassia Residence (แคสเซีย เรสซิเดนซ์ ) และ Cassia Hotel (แคสเซีย โฮเทล) โดยรับประกันผลตอบแทนในช่วง 5 ปีแรกที่ 5% ต่อปี 

และในปีที่ 6-15 จะได้รับผลตอบแทนในรูปแบบการแบ่งผลกำไร (Profit Sharing) ตามผลประกอบการของโครงการ ซึ่งคาดการณ์ผลตอบแทนเฉลี่ยยู่ที่ 8%* ในระยะเวลา 15 ปี หลังจากนั้นลูกค้าสามารถเจรจาต่อสัญญาเช้าได้กับทางโครงการ 

สำหรับจุดแข็งในการลงทุนลักษณะนี้ ได้แก่ ทำเลที่ตั้งบนถนนพระราม 9 เป็นย่าน New CBD ที่มีศักยภาพสูง มีการพัฒนาเส้นทางคมนาคม รถไฟฟ้า และสาธารณูปโภคต่าง ๆ ที่มีการลงทุนขนาดใหญ่ของทั้งทางภาครัฐ และเอกชน 

นอกจากนี้ยังเต็มไปด้วยแหล่งช้อปปิ้ง ร้านอาหาร และความบันเทิง อีกทั้งยังเชื่อมต่อการเดินทางอย่างสะดวกสบายจากสนามบินสุวรรณภูมิ สุขุมวิท และอโศก 

อีกทั้งโครงการนี้ยังโดดเด่นด้วยการออกแบบสไตล์ลอฟต์ที่มีเอกลักษณ์ ครัวทันสมัย และพื้นที่อยู่อาศัยแบบห้อง 2 ชั้น เพดานสูงถึง 4.4 เมตร สามารถตอบโจทย์ทุกการอยู่อาศัย และตอบสนองไลฟ์สไตล์ทุกรูปแบบ รวมถึงเป็นการยกระดับมาตรฐานการบริการให้อยู่ในระดับสากลซึ่งนับว่าเป็นทางเลือกที่คุ้มค่า ทั้งการซื้อเพื่ออยู่อาศัย หรือเพื่อการลงทุนก็ตาม  

ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าวยังส่งผลให้บริษัทรับรู้รายได้ส่วนใหญ่ในปีนี้มาจากการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดโครงการ LANDMARK AT MRTA STATION โครงการแลนมาร์คแห่งใหม่ใจกลางพระราม9 

ด้วยกลยุทธ์พัฒนโครงการ Branded Residence และการเพิ่มโครงการแบบ Mixed Use ในโครงการ LANDMARK AT MRTA STATION ร่วมกับกระแสตอบรับที่ดีจากโปรแกรม Investment Program ซึ่งได้รับความสนใจจากทั้งลูกค้าชาวไทยและต่างชาติ และบริษัทยังมีรายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์โครงการแนวราบ รวมถึงรายได้จากธุรกิจโรงแรม ธุรกิจร้านอาหาร และ เฮลท์ & เวลเนส อื่นๆอีกด้วย 

ทั้งนี้คาดว่าจะสนับสนุนให้ผลการดำเนินงานปี 2567 บริษัทคาดว่าจะเติบโตอย่างโดดเด่นต่อเนื่องประมาณ 2 เท่าจากปีก่อน โดยคาดว่ารายได้จะเติบโตที่ระดับ 5,000 ล้านบาท และในช่วงไตรมาสที่ 4/2567 จะมีรายได้สูงที่สุดของปี 

สำหรับในปี 2568 บริษัทยังมีโครงการโรงแรมที่พร้อมเปิดให้บริการโรงแรมเพิ่มอีก 6 แห่ง ได้แก่ โรงเเรม Novotel, โรงเเรม Cassia, โรงเเรม Pullman 2 เเห่ง เเละ โรงเเรม Crowne Plaza เป็นต้น 

นอกจากนี้บริษัทยังมองหาที่ดินในบริเวณหาดบางเทา จังหวัดภูเก็ต เพื่อพัฒนาโครงการใหม่ๆ ซึ่งปัจจุบันหาดบางเทา ถือเป็นแลนด์มาร์คใหม่ของผู้อยู่อาศัยชาวต่างชาติ โดยมองว่านอกเหนือจากกลุ่มลูกค้าจีนที่นิยมอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย ยังมีลูกค้าชาวยุโรป และนักลงทุนที่มองหาโอกาสสร้างผลตอบแทนอีกเป็นจำนวนมาก