เมื่อ 'ทรัมป์' กลับมา ไทยจะรับมืออย่างไร? ผู้นำองค์กรชั้นนำร่วมวิเคราะห์ทุกมิติ
TNN16 จัดสัมมนา "EMPOWERING THAILAND" รวมผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์ผลกระทบ "ทรัมป์" กลับมาเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ชี้ไทยต้องรับมือ 5 ด้าน ทั้งสงครามการค้า เทคโนโลยี และภูมิรัฐศาสตร์ พร้อมเผยโอกาสดึงนักท่องเที่ยวคุณภาพ
TNN16 เปิดวงเสวนา "ยุทธศาสตร์ประเทศไทย 2568" เจาะลึกผลกระทบยุค “ทรัมป์ 2.0” สู่เศรษฐกิจไทย
เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2567 สถานีข่าว TNN16 ได้จัดงานสัมมนาเชิงวิชาการภายใต้หัวข้อ "ยุทธศาสตร์ประเทศไทย 2568: โอกาสและความท้าทายในยุคทรัมป์ 2.0" ณ ห้องประชุมใหญ่ของสถานี โดยมีผู้นำองค์กร นักวิชาการ และผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุน ร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองเชิงลึก เพื่อเตรียมพร้อมประเทศไทยให้รับมือกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จากการกลับมาของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ในตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ
การเสวนาแบ่งออกเป็น 3 หัวข้อหลัก ได้แก่ เศรษฐกิจและการค้าโลก การท่องเที่ยวไทยในยุคดิจิทัล และ ความเชื่อมโยงของภูมิศาสตร์การเมืองโลกต่อไทย พร้อมการวิเคราะห์เจาะลึกโดยผู้เชี่ยวชาญหลากหลายวงการ
เศรษฐกิจโลกและการค้า: นโยบาย "ทรัมป์ 2.0" กับความเปลี่ยนแปลงที่ต้องจับตา
คุณเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เริ่มต้นด้วยการวิเคราะห์นโยบายการค้ารอบใหม่ของทรัมป์ที่อาจรุนแรงยิ่งกว่าครั้งแรก โดยเฉพาะมาตรการกีดกันทางการค้าที่เน้นการปกป้องเศรษฐกิจสหรัฐฯ เป็นหลัก เช่น การเพิ่มอัตราภาษีสินค้านำเข้าจากจีนและประเทศคู่ค้าอื่นๆ รวมถึงการสนับสนุนการย้ายฐานการผลิตกลับสู่สหรัฐฯ
"นโยบาย ‘America First’ ของทรัมป์ อาจส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างการค้าระหว่างประเทศอย่างรุนแรง โดยเฉพาะสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนที่จะทวีความรุนแรงขึ้น ไทยซึ่งมีความสัมพันธ์ทางการค้ากับทั้งสองประเทศต้องเตรียมพร้อมรับมือกับผลกระทบ เช่น การเปลี่ยนแปลงในห่วงโซ่อุปทานและการแข่งขันทางการค้าในระดับภูมิภาค"
คุณเกรียงไกรยังกล่าวถึงนโยบายลดภาษีนิติบุคคลของสหรัฐฯ จาก 21% เหลือ 15% ซึ่งอาจดึงดูดการลงทุนในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น พร้อมกับแนวโน้มการกลับมาใช้น้ำมันและก๊าซธรรมชาติที่อาจสวนทางกับกระแสการพัฒนาอุตสาหกรรมสีเขียวทั่วโลก
"ผลกระทบต่อไทยในด้านเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมเป็นสิ่งที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะอุตสาหกรรมส่งออกและพลังงานของไทยที่อาจได้รับแรงกดดันทั้งทางตรงและทางอ้อม"
เพิ่มมุมมอง: ความท้าทายเชิงโอกาสจากทรัมป์ 2.0
คุณพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ เสริมรายละเอียดจากประเด็นที่ คุณเกรียงไกร เธียรนุกุลได้กล่าวไว้ โดยระบุว่า นโยบายของทรัมป์ที่มุ่งปกป้องเศรษฐกิจในประเทศนั้น อาจเป็นทั้งความท้าทายและโอกาสสำหรับประเทศไทย หากเราสามารถปรับตัวและใช้ประโยชน์จากสถานการณ์นี้ได้อย่างเหมาะสม
“หากมองอย่างรอบด้าน นโยบายของทรัมป์แม้จะสร้างความเข้มงวดในด้านการค้าและการลงทุน แต่ก็เปิดโอกาสให้ไทยปรับตัวในด้านการค้าระหว่างประเทศ เช่น การลดการเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ ผ่านการนำเข้าสินค้าที่ตอบโจทย์อุตสาหกรรมและนวัตกรรมในประเทศ ซึ่งอาจทำให้ความสัมพันธ์การค้าสองฝ่ายมีเสถียรภาพมากขึ้น”
การท่องเที่ยวไทย: โอกาสและความท้าทายในยุคดิจิทัล
คุณฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นำเสนอภาพรวมผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในภาคการท่องเที่ยวไทย โดยเน้นถึงศักยภาพในการดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติในยุคที่ดอลลาร์สหรัฐอาจแข็งค่าขึ้นจากนโยบายเศรษฐกิจของทรัมป์
"นักท่องเที่ยวอเมริกันอาจเลือกเดินทางมาประเทศไทยเพิ่มขึ้น เพราะค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าจะช่วยลดต้นทุนการเดินทาง แต่สิ่งสำคัญคือการเตรียมสินค้าและบริการให้ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะกลุ่ม เช่น การท่องเที่ยวเชิงหรูหรา (Luxury Travel) และการใช้สินทรัพย์ดิจิทัลอย่าง Bitcoin ในการชำระเงิน"
คุณฐาปนีย์ยังกล่าวถึงบทบาทของประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางที่ปลอดภัยและเป็นกลางในระดับโลก โดยเฉพาะในช่วงที่ภูมิภาคตะวันออกกลางและยุโรปเผชิญความไม่สงบ
"การสร้างความเป็นมิตรและยกระดับมาตรฐานบริการเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวมุสลิม รวมถึงการขยายเส้นทางบินตรงระหว่างไทยและสหรัฐฯ จะช่วยเสริมศักยภาพของไทยในฐานะจุดหมายปลายทางยอดนิยมในภูมิภาคเอเชีย"
ภูมิศาสตร์การเมืองโลก: ผลกระทบและโอกาสต่อเศรษฐกิจไทย
ดร.อัทธ์ พิศาลวานิช นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ชี้ให้เห็นถึงผลกระทบจากสงครามการค้าและภูมิศาสตร์การเมืองโลก โดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และจีน ที่อาจสร้างความท้าทายและโอกาสให้กับประเทศไทยในฐานะประเทศที่ตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์สำคัญของอาเซียน
"นโยบายของทรัมป์ที่เน้นกีดกันจีนอย่างหนัก อาจกระตุ้นให้เกิดการย้ายฐานการผลิตมายังอาเซียน ซึ่งไทยอาจได้รับประโยชน์หากสามารถพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งแวดล้อมทางธุรกิจให้ดึงดูดการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ"
ดร.อัทธ์ยังระบุถึงความสำคัญของการสร้างสมดุลในความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับทั้งสหรัฐฯ และจีน เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบเชิงลบจากความขัดแย้งระหว่างสองมหาอำนาจนี้
แนวโน้มเศรษฐกิจการเงินโลก: การปรับตัวในยุคทรัมป์
ดร.อมรเทพ จาวลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสำนักวิจัย ธนาคาร CIMBT กล่าวถึงผลกระทบด้านการเงินโลกจากนโยบายทรัมป์ โดยเฉพาะค่าเงินดอลลาร์ที่อาจแข็งค่าขึ้นในระยะสั้นจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก
"ในช่วงแรกของการกลับมาดำรงตำแหน่งของทรัมป์ ความไม่แน่นอนอาจกระตุ้นให้เงินทุนไหลกลับเข้าสู่สินทรัพย์ปลอดภัย เช่น ดอลลาร์สหรัฐ ขณะเดียวกัน ตลาดหุ้นสหรัฐฯ อาจได้รับแรงหนุนจากนโยบายลดภาษีนิติบุคคล แต่ความผันผวนในตลาดเกิดใหม่ รวมถึงไทย อาจเพิ่มสูงขึ้น"
ดร.อมรเทพยังเตือนถึงความเสี่ยงจากต้นทุนการกู้ยืมที่สูงขึ้นในสหรัฐฯ และผลกระทบต่อเงินเฟ้อในประเทศคู่ค้า ซึ่งอาจส่งผลต่อกำลังซื้อของนักลงทุนและผู้บริโภคทั่วโลก
การสัมมนาสิ้นสุดลงด้วยการสรุปแนวทางที่ประเทศไทยควรปรับตัวในทุกมิติ ตั้งแต่การพัฒนาขีดความสามารถด้านการค้า การลงทุนในเทคโนโลยี และการส่งเสริมการท่องเที่ยว รวมถึงการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างประเทศที่สมดุล
"ประเทศไทยต้องเตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในยุคทรัมป์ 2.0 โดยการพัฒนาโครงสร้างเศรษฐกิจที่ยืดหยุ่น สร้างมูลค่าเพิ่มในสินค้าและบริการ และส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศให้แข็งแกร่ง"
ภาพ : TNN
เรียบเรียง
ยศไกร รัตนบรรเทิง บรรณาธิการ TNN
ข่าวแนะนำ