TNN ทองคำมีโอกาสทำ All-time high ใหม่อีกครั้ง

TNN

Wealth

ทองคำมีโอกาสทำ All-time high ใหม่อีกครั้ง

ทองคำมีโอกาสทำ All-time high ใหม่อีกครั้ง

ราคาทองคำเคลื่อนไหวใกล้ All-time high และยังคงมีแรงซื้อทองคำอย่างแข็งแกร่ง คาดว่าราคาทองคำยังคงมีแนวโน้มปรับตัวขึ้น โดยราคาทองคำมีแนวรับ 2,730 ดอลลาร์ และ 2,700 ดอลลาร์

ช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมายังคงมีแรงซื้อทองคำอย่างแข็งแกร่งดันราคาทองคำปรับตัวขึ้นเข้าใกล้ระดับ All-time high ซึ่งราคาทองคำเมื่อวันศุกร์ได้ปิดตลาดใกล้เคียงกับราคา High ซึ่งมีโอกาสที่ราคาทองคำจะปรับตัวขึ้นได้ต่อ ทั้งนี้ราคาทองคำมีแนวโน้มทิศทางขาขึ้นในระยะยาว และในระยะสั้นราคาทองคำยังมีปัจจัยหนุนเข้ามาซึ่งมีโอกาสที่อาจทำให้ราคาทองคำอาจทำ All-Time high อีกครั้ง โดยประเด็นดังกล่าวที่ยังคงต้องติดตามที่ยังคงสร้างแรงหนุนต่อราคาทองคำ ดังต่อไปนี้
      

สถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลางที่มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น โดยอิสราเอลได้โจมตีเป้าหมายทางทหารในอิหร่าน ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับสงครามที่ขยายวงกว้างขึ้นในตะวันออกกลาง

      

ความไม่แน่นอนในผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปี 2024 จะจัดขึ้นในวันอังคารที่ 5 พฤศจิกายน แม้ผลสำรวจหลายสำนักล่าสุดพบว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ มีคะแนนนำเหนือกมลา แฮร์ริส และหากนายโดนัลด์ ทรัมป์มีชัยชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในครั้งนี้ก็อาจส่งผลบวกต่อราคาทองคำ อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจคะแนนระหว่างนายโดนัลด์ ทรัมป์และกมลา แฮร์ริสค่อนข้างมีความสูสีกันมาก ผลการเลือกตั้งในครั้งนี้จึงเป็นที่คาดเดาได้ยากมากกว่าการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในครั้งก่อน ๆ นอกจากนี้การเลือกตั้งสหรัฐปี 2024 ส่งผลต่อราคาทองคำอย่างมาก เนื่องจากความไม่แน่นอนทางการเมืองและเศรษฐกิจส่งผลให้ราคาทองคำสูงขึ้น โดยทองคำมักถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยในช่วงที่มีความเสี่ยงทางการเมืองและเศรษฐกิจ การแข่งขันที่เข้มข้นระหว่างกมลา แฮร์ริสและนายโดนัลด์ ทรัมป์กระตุ้นความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับนโยบายที่จะเปลี่ยนไป ซึ่งอาจส่งผลต่ออัตราดอกเบี้ย อัตราเงินเฟ้อ และหนี้สาธารณะของสหรัฐ ปัจจุบันราคาทองคำยังคงอยู่ในระดับสูงเนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐมีปัญหาทางการคลัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหนี้สาธารณะที่เพิ่มขึ้น การเลือกตั้งที่อาจมีผลลัพธ์ที่ไม่ชัดเจนหรือมีการโต้แย้ง อาจทำให้นักลงทุนมีแนวโน้มที่จะถือครองทองคำเพิ่มมากขึ้นเพื่อป้องกันความเสี่ยง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีความไม่แน่นอนต่อเนื่องหลังการเลือกตั้ง ซึ่งจะส่งผลให้ราคาทองคำยังคงอยู่ในระดับสูงต่อไป

           

การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ในวันที่ 6-7 พฤศจิกายน  คาดว่าจะส่งผลกระทบสำคัญต่อราคาทองคำ เนื่องจากมีความเป็นไปได้สูงที่จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อลดภาระทางเศรษฐกิจ การปรับลดอัตราดอกเบี้ยเช่นนี้มักส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนลง ทำให้นักลงทุนหันมาถือครองทองคำมากขึ้น ซึ่งมักจะมีราคาสูงขึ้นตามไปด้วย

         

สำหรับกลุ่ม BRICS ที่มีการหารือจัดตั้งตลาดโลหะมีค่า โดยการกระจายอำนาจและลดอิทธิพลของตะวันตก เพื่อกระจายอำนาจการกำหนดราคาและหลีกเลี่ยงการพึ่งพาตลาดที่ถูกควบคุมโดยประเทศตะวันตก ซึ่งอาจทำให้ราคาทองคำมีความเสถียรภาพมากขึ้นและลดความผันผวนจากการควบคุมโดยตลาดตะวันตก  เพิ่มความต้องการทองคำ: หาก BRICS ใช้ทองคำเป็นหลักในการซื้อขายหรือเป็นสกุลเงินสำรองของกลุ่ม ก็อาจเพิ่มความต้องการและราคาทองคำในตลาดโลก เนื่องจากสมาชิก BRICS เริ่มสะสมทองคำเพื่อสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากรัสเซียและจีนยังคงเพิ่มทุนสำรองทองคำของตนเองต่อไป ปัจจัยเสถียรภาพในระยะยาว: การที่กลุ่ม BRICS สร้างมาตรฐานการค้าทองคำระหว่างกันอาจส่งผลให้ราคาทองคำในระยะยาวมีเสถียรภาพมากขึ้น เพราะกลุ่มนี้มีการกำหนดตัวชี้วัดราคาและมาตรฐานการค้าเอง ลดผลกระทบจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนดอลลาร์สหรัฐและความเสี่ยงจากนโยบายการเงินของตะวันตก ซึ่งปัจจัยดังกล่าวก็อาจส่งผลบวกต่อราคาทองคำในระยะยาวเช่นกัน


ทองคำมีโอกาสทำ All-time high ใหม่อีกครั้ง

 

Gold Bullish 

   ความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ สงครามยูเครน-รัสเซีย สงครามอิสราเอล-ฮามาส

   ธนาคารกลางทั่วโลกเข้าซื้อทองคำต่อเนื่อง

   ทิศทางดอกเบี้ยขาลง

   ความไม่แน่นอนต่อผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ

 

Gold Bearish 

   การหยุดซื้อทองคำของธนาคารกลางจีน


ราคาทองคำเคลื่อนไหวใกล้ All-time high และยังคงมีแรงซื้อทองคำอย่างแข็งแกร่ง คาดว่าราคาทองคำยังคงมีแนวโน้มปรับตัวขึ้น โดยราคาทองคำมีแนวรับ 2,730 ดอลลาร์ และ 2,700 ดอลลาร์ และราคาทองคำมีแนวต้าน 2,758 ดอลลาร์ และแนวต้าน 2,770 ดอลลาร์ ส่วนแนวโน้มราคาทองแท่งในประเทศมีแนวโน้มปรับตัวขึ้น ตามราคาทองคำโลก โดยมีแนวรับ 43,500 บาท และ 43,300 บาท ขณะที่มีแนวต้านที่ 43,900 บาท และ 44,000 บาท


ธนรัชต์ พสวงศ์ 

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มฮั่วเซ่งเฮง


ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง