ราคาทองคำปรับตัวขึ้นได้ต่อ จากสถานการณ์ในตะวันออกกลางร้อนระอุขึ้น
แม้ราคาทองคำเกิดแรงเทขายออกมา แต่คาดว่าอาจจะมีแรงซื้อกลับมาอย่างแข็งแกร่ง ทำให้ราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นได้ต่อสู่ All-time high อีกครั้ง
ช่วงวันศุกร์ของสัปดาห์ที่ผ่านมา ทองคำเกิดแรงเทขายออกมา หลังจากที่ราคาทองคำเดินหน้าปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องทำ All-time high ที่ระดับ 2,685 ดอลลาร์ จากปัจจัยหนุน 3 ปัจจัย ได้แก่ ทิศทางดอกเบี้ยขาลง มาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน และสถานการณ์ในตะวันออกกลางที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น ทั้งนี้แม้ว่าราคาทองคำจะปรับตัวลงในช่วงวันศุกร์ แต่เราคาดว่าเป็นการปรับตัวลงระยะสั้นเท่านั้น โดยสัปดาห์นี้คาดว่าราคาทองคำมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ต่อ หากยังคงยืนเหนือบริเวณ 2,620 ดอลลาร์ ซึ่งคาดว่าสัปดาห์นี้ราคาทองคำจะได้รับปัจจัยหนุนจากสถานการณ์ในตะวันออกกลางที่มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น
โดยช่วงปลายสัปดาห์ก่อนสถานการณ์ในตะวันออกกลางมีแนวโน้มจะรุนแรงมากขึ้น หลังจากการสังหาร ฮัสซัน นาสรัลเลาะห์ ผู้นำกลุ่มฮิซบอลเลาะห์โดยอิสราเอล ถือเป็นการกระทำที่ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อสถานการณ์ในตะวันออกกลางและความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มต่าง ๆ ในภูมิภาคนี้ ซึ่งอิสราเอลยกระดับการโจมตีทางอากาศทั่วเลบานอนตั้งแต่วันที่ 23 ก.ย. ซึ่งถือเป็นการโจมตีครั้งใหญ่ที่สุดในประเทศนับตั้งแต่ปี 2549
การสังหารผู้นำระดับสูงของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ทำให้ความตึงเครียดระหว่างอิสราเอลและเลบานอนยิ่งเพิ่มขึ้น ซึ่งฮิซบอลเลาะห์เป็นพันธมิตรหลักของอิหร่านที่ให้การสนับสนุนกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา เหตุการณ์นี้มีแนวโน้มที่จะทำให้การโจมตีระหว่างทั้งสองฝ่ายยกระดับไปสู่ความขัดแย้งที่รุนแรงขึ้น ไม่เพียงในฉนวนกาซา แต่รวมถึงในเลบานอนและพื้นที่ใกล้เคียงด้วย
ในด้านเศรษฐกิจ การปะทะที่ยืดเยื้อในตะวันออกกลาง โดยตะวันออกกลางเป็นภูมิภาคที่สำคัญในด้านการผลิตและขนส่งน้ำมัน การเพิ่มขึ้นของความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและฮิซบอลเลาะห์อาจทำให้ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะภูมิภาคนี้มีบทบาทสำคัญในการจัดหาน้ำมันของโลก หากมีการปิดกั้นเส้นทางขนส่งน้ำมันสำคัญหรือเกิดการโจมตีที่กระทบต่อแหล่งผลิต ราคาน้ำมันอาจเพิ่มขึ้นสูง ซึ่งจะส่งผลต่ออัตราเงินเฟ้อในหลายประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจโลกกำลังฟื้นตัวจากวิกฤตโควิด-19 และผลกระทบจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน ผลจากความขัดแย้งนี้สามารถก่อให้เกิดความไม่แน่นอนต่อราคาน้ำมัน รวมถึงอุปทานพลังงาน ซึ่งมีผลต่ออัตราเงินเฟ้อในประเทศต่าง ๆ
สำหรับทองคำ ความขัดแย้งในตะวันออกกลางมักส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่นักลงทุนถือว่าเป็น "สินทรัพย์ปลอดภัย" เมื่อเกิดความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์หรือเศรษฐกิจ โดยเฉพาะหากมีการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันและความเสี่ยงของสงครามในภูมิภาคนี้ที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก การลงทุนในทองคำจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก ราคาทองคำจึงมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นในช่วงที่ความขัดแย้งยังคงดำเนินต่อไป
คาดราคาทองคำปรับตัวขึ้นได้ต่อ จากสถานการณ์ในตะวันออกกลางร้อนระอุขึ้น
Gold Bullish
ความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ สงครามยูเครน-รัสเซีย สงครามอิสราเอล-ฮามาส
ธนาคารกลางทั่วโลกเข้าซื้อทองคำต่อเนื่อง
ตลาดเพิ่มน้ำหนักเฟดจะลดดอกเบี้ยมากขึ้น
Gold Bearish
การหยุดซื้อทองคำของธนาคารกลางจีน
แม้ราคาทองคำเกิดแรงเทขายออกมา แต่คาดว่าอาจจะมีแรงซื้อกลับมาอย่างแข็งแกร่ง ทำให้ราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นได้ต่อสู่ All-time high อีกครั้ง โดยมีเป้าหมายที่ราคา 2,700 ดอลลาร์ โดยราคาทองคำมีแนวรับ 2,620 ดอลลาร์ และ 2,600 ดอลลาร์ และราคาทองคำมีแนวต้าน 2,685 ดอลลาร์ และแนวต้าน 2,700 ดอลลาร์ ส่วนแนวโน้มราคาทองแท่งในประเทศปรับตัวขึ้นตามราคาทองคำโลก แม้เผชิญแรงกดดันจากค่าเงินบาทแข็งค่า โดยมีแนวรับ 40,500 บาท และ 40,400 บาท ขณะที่มีแนวต้านที่ 41,000 บาท และ 41,200 บาท
ข่าวแนะนำ