TNN ทอง: ปัจจัยที่ควรติดตามในเดือนก.ย.

TNN

Wealth

ทอง: ปัจจัยที่ควรติดตามในเดือนก.ย.

ทอง: ปัจจัยที่ควรติดตามในเดือนก.ย.

ยังคงให้ระวังแรงเทขายต่อจากสัปดาห์ที่แล้ว อย่างไรก็ตามคาดว่าแนวรับ 2,470 ดอลลาร์จะยังคงรับอยู่

ราคาทองคำปรับตัวขึ้นสู่ระดับ All-Time High ในเดือนส.ค.ที่ผ่านมา ด้วยแรงหนุนจากปัจจัยหลักคือตลาดมั่นใจเฟดลดดอกเบี้ยในเดือนก.ย.และทิศทางดอกเบี้ยขาลง รวมถึงแรงหนุนจากสถานการณ์ในตะวันออกกลางซึ่งประเด็นที่ยังต้องติดตามกันต่อไปในเดือนก.ย.นี้ นั่นคือการประชุมเฟดในเดือนก.ย. และการดีเบตระหว่างคามาลา แฮร์ริส พรรคเดโมแครต และนายโดนัลด์ ทรัมป์ พรรครีพับลิกัน 


การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (Federal Reserve) ในเดือนกันยายน จะจัดขึ้นในวันที่ 17-18 ก.ย.นี้ ตามเวลาสหรัฐฯ คาดว่าเฟดจะปรับลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมครั้งนี้ ทั้งนี้ ณ ตอนนี้ตลาดคาดว่าเฟดอาจจะปรับลดดอกเบี้ยทุกประชุมที่เหลือในปีนี้ โดยเฟดอาจจะปรับลดดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนก.ย. และอาจปรับลดดอกเบี้ยอีก 0.25% ในการประชุมเดือนพ.ย. และเฟดจะปรับลดดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนธ.ค.มากถึง 0.50% นั่นหมายความว่าปีนี้เฟดอาจปรับลดดอกเบี้ยมากถึง 1% 


อย่างไรก็ตาม ขนาดการปรับลดดอกเบี้ยอาจส่งผลกระทบต่อความผันผวนของราคาทองคำ ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าเฟดจะปรับลดดอกเบี้ยในเดือนก.ย. 0.25% แต่ถ้าเฟดมีการส่งสัญญาณของการปรับลดดอกเบี้ยในเดือนพ.ย.


หรือเดือนธ.ค.ที่น้อยกว่าที่ตลาดคาด ก็อาจส่งผลเชิงลบต่อราคาทองคำ แต่ถ้าเฟดส่งสัญญาณของการปรับลดดอกเบี้ยในเดือนพ.ย.หรือเดือนธ.ค.มากกว่าที่ตลาดคาด อาจดันราคาทองคำให้ปรับตัวขึ้นพุ่งสู่ All-Time High ใหม่ได้


การดีเบตระหว่างคามาลา แฮร์ริส พรรคเดโมแครต และนายโดนัลด์ ทรัมป์ พรรครีพับลิกัน ซึ่งล่าสุดผลโพลหลายสำนักชี้ว่าคะแนนความนิยมของคามาลา แฮร์ริส พรรคเดโมแครตนำเหนือนายโดนัลด์ ทรัมป์ พรรครีพับลิกัน ซึ่งการดีเบตครั้งนี้เป็นการดีเบตรอบที่สองระหว่าง Kamala Harris และ Donald Trump ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯปีนี้ จะมีขึ้นในวันอังคารที่ 10 ก.ย. ตามเวลาสหรัฐฯ ซึ่งจะเริ่มต้นในเวลา 21:00 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (ET) ซึ่งตรงกับเวลา 08:00 น. ของวันพุธที่ 11 ก.ย. ตามเวลาในประเทศไทย จากที่ก่อนหน้านี้มีการดีเบตรอบแรกระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดนกับนายโดนัลด์ ทรัมป์


ทั้งนี้ ผลสำรวจภายหลังการดีเบตอาจส่งผลกระทบต่อราคาทองคำเชิงบวกได้ หากว่าการดีเบตครั้งนี้ชี้ว่านายโดนัลด์ ทรัมป์กลับมามีคะแนนนำเหนือคามาลา แฮร์ริส ซึ่งตลาดจะกลับมาให้ความสนใจต่อการคาดการณ์ของผลกระทบทางเศรษฐกิจ ที่อาจเกิดขึ้น หากนายโดนัลด์ ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งสหรัฐในปีนี้ ทั้งนี้เพนน์ วอร์ตัน บัดเจต โมเดล (Penn Wharton Budget Model) ซึ่งเป็นองค์กรที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ได้เปิดเผยผลการศึกษาฉบับล่าสุดว่า นโยบายเศรษฐกิจที่นำเสนอโดยอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะส่งผลให้รัฐบาลกลางสหรัฐฯ ขาดดุลงบประมาณเพิ่มขึ้น 5.8

ล้านล้านดอลลาร์ในช่วง 10 ปีข้างหน้า ซึ่งสูงกว่านโยบายที่นำเสนอโดยรองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส เกือบ 5 เท่า โดยนโยบายของแฮร์ริสจะทำให้รัฐบาลกลางขาดดุลงบประมาณเพิ่มขึ้น 1.2 ล้านล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ได้มีการขู่ว่าจะขอถอนตัวจากดีเบต หลังทีมหาเสียง "แฮร์ริส" ขอเปิดไมค์ตลอดการดีเบต ซึ่งต้องติดตามต่อไปว่าการดีเบตรอบสองจะเกิดขึ้นหรือไม่?


ปัจจัยที่ควรติดตามในเดือนก.ย.


Gold Bullish

 ความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ สงครามยูเครน-รัสเซีย

สงครามอิสราเอล-ฮามาส

 ธนาคารกลางทั่วโลกเข้าซื้อทองคำต่อเนื่อง

 Demand ทองคำจากอินเดียและจีนเริ่มกลับมา

 ตลาดคาดว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยมากกว่าที่คาด


Gold Bearish

 การหยุดซื้อทองคำของธนาคารกลางจีน


ทองคำเริ่มมีแรงเทขายจากสัปดาห์ก่อน และราคาทองคำเกิดสัญญาณ Bearish divergence มาสักระยะ ขณะที่สัญญาณทางเทคนิคจาก MACD เกิด Bearish MACD เช่นกัน ซึ่งยังคงให้ระวังแรงเทขายต่อจากสัปดาห์ที่แล้ว อย่างไรก็ตามคาดว่าแนวรับ 2,470 ดอลลาร์จะยังคงรับอยู่

ทั้งนี้ราคาทองคำมีแนวรับ 2,470 ดอลลาร์ และ 2,485 ดอลลาร์ และราคาทองคำมีแนวต้าน 2,530 ดอลลาร์ และแนวต้าน 2,540 ดอลลาร์

ส่วนแนวโน้มราคาทองแท่งในประเทศอาจปรับตัวลงในระยะสั้น จากสัญญาณทางเทคนิคที่บ่งชี้การปรับตัวลง จึงแนะนำชะลอการเข้าซื้อ ให้

Wait&see โดยมีแนวรับ 40,100 บาท และ 40,000 บาท ขณะที่มีแนวต้านที่ 40,700 บาท และ 40,800 บาท


ธนรัตน์ พสวงศ์ 

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มฮั่วเซ่งเฮง

ข่าวแนะนำ